หนี้สินของครัวเรือนเกษตร พ.ศ. 2564

หนี้สินของครัวเรือนเกษตร พ.ศ. 2564 60 2. สถานการณ์ของครัวเรือนเกษตรที่เป็นหนี้ ครัวเรือนเกษตรที่เป็นหนี้มีแนวโน้มการเป็นหนี้ลดลงในช่วงปี 2556 - 2562 โดยใน ปี 2556 ครัวเรือนเกษตรเป็นหนี้ร้อยละ 70.3 ลดลงเหลือร้อยละ 62.8 ในปี 2562 ส่วนปี 2564 ครัวเรือนเกษตรมีสัดส่วนการเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 66.7 เมื่อเทียบกับ ปี 2562 ในขณะที่ มูลค่าหนี้สินเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 168,119 บาทต่อครัวเรือน ในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 311,098 บาทต่อครัวเรือน ในปี 2564 และพบว่าในปี 2564 ครัวเรือนเกษตรใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสัดส่วนครัวเรือนที่เป็นหนี้สูงสุด ร้อยละ 78.0 รองลงมาคือ ภาคเหนือ ร้อยละ 68.1 ภาคกลาง ร้อยละ 60.8 และภาคใต้ ร้อยละ 51.3 เมื่อพิจารณาลักษณะทางเศรษฐกิจ พบว่าในปี 2564 ครัวเรือนเกษตรที่เป็นหนี้มีรายได้ทั้งสิ้น 25,480 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 18,429 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน มีมูลค่า ทรัพย์สินทั้งสิ้น 3,054,610 บาทต่อครัวเรือน และพบว่าครัวเรือนเกษตรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง มีมูลค่าหนี้สินเฉลี่ยมากที่สุด 386,446 บาทต่อครัวเรือน เมื่อพิจารณาแหล่งเงินกู้และวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พบว่าในปี 2564 ครัวเรือนเกษตร ที่เป็นหนี้เป็นหนี้ในระบบมากกว่าหนี้นอกระบบ โดยเป็นหนี้ในระบบร้อยละ 94.7 เป็นหนี้นอก ระบบร้อยละ 2.3 และเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบร้อยละ 3.0 และพบว่าครัวเรือนเกษตรที่เป็นหนี้ กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมากที่สุดร้อยละ 58.1 รองลงมาคือ กู้เงิน จากกองทุนหมู่บ้าน/ชุมชนเมืองร้อยละ 20.9 สถาบันการเงินและแหล่งเงินทุนอื่นร้อยละ 9.7 และ ธนาคารพาณิชย์ร้อยละ 4.4 ส� ำหรับวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พบว่าครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่กู้ยืมเพื่อ ใช้ท� ำการเกษตรมากที่สุดร้อยละ 57.6 รองลงมาคือ ใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ในครัวเรือน ร้อยละ 26.1 ซื้อ/เช่าซื้อบ้าน/ที่ดินร้อยละ 10.3 และใช้ประกอบธุรกิจร้อยละ 4.7 ความสามารถในการช� ำระหนี้ (ด้านรายได้) พบว่า ครัวเรือนเกษตรที่เป็นหนี้มีความสามารถ ในการช� ำระหนี้ลดลง โดยปี 2562 มีสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ 10.9 เท่า ส่วนปี 2564 มีสัดส่วน หนี้สินต่อรายได้ เพิ่มสูงขึ้นถึง 12.2 เท่า และเมื่อพิจารณาความสามารถในการช� ำระหนี้ (ด้านสินทรัพย์) พบว่า ครัวเรือนเกษตรมีความสามารถในการช� ำระหนี้ลดลงเช่นเดียวกัน โดยปี 2562 มีสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน 8.6 เท่า ส่วนปี 2564 มีสัดส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สิน 10.2 เท่า ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19