ครัวเรือนฐานราก พ.ศ. 2564

หน้า l 99 ครัวเรือนฐานราก พ.ศ. 2564 ด้านการศึกษาและการทำ างาน ประกอบด้วย สัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือน จบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่า และสัดส่วนของครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือน ทำ างานในภาคเกษตร เมื่อพิจารณาคุณลักษณะของครัวเรือนในประเด็นด้านการศึกษาและการทำ างานแล้ว จะเห็นว่า กลุ่มครัวเรือนฐานรากมีสัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษาระดับ ประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่า และสัดส่วนของครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนทำ างานในภาคเกษตร แตกต่างจากครัวเรือนกลุ่มควินไทล์ที่ 2 นั่นคือสามารถบ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานรากได้ ยกเว้นแต่ สัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่า สามารถบ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานรากได้ที่ระดับความเชื่อมั่น 99.0% ทั้งนี้เมื่อพิจารณา ค่าเฉลี่ยและสัดส่วนระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 พบว่า สัดส่วนของ ครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนทำ างานในภาคเกษตรมีความต่าง 3.59 เท่า และสัดส่วนครัวเรือน ที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่ามีความต่างถึง 2.58 เท่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของทุกตัวแปร ต่ำ ากว่าความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานราก กับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาพรวมทั่วประเทศ ด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน (ตามหมวด) ประกอบด้วย หมวดอาหาร และเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมวดยาสูบ/หมาก/ยานัตถุ์และ อื่น ๆ หมวดเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า หมวดค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล หมวดเวชภัณฑ์และค่ารักษาพยาบาล หมวดการเดินทาง หมวดการสื่อสาร หมวดการศึกษา หมวดการบันเทิงการอ่านและกิจกรรมทางศาสนา และหมวดการจัดงานพิเศษ “กลุ่มครัวเรือนฐานรากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ�มีความเหลื่อมล้ ำ า ด้านการศึกษาและการทำ างาน�ต่ำ ากว่าภาพรวมทั่วประเทศ” “ หมวดค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล�หมวดการสื่อสาร�หมวดการศึกษา�และหมวดการจัดงานพิเศษ� ไม่ได้บ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานรากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” กลุ่มควินไทล์ที่ 2 และ 3 นั่นคือ ไม่ได้บ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานราก ทั้งนี้เมื่อพิจารณา ค่าเฉลี่ยและสัดส่วนระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 พบว่า ความต่างสูงสุด คือ สัดส่วนครัวเรือนที่ไม่มีการออม ถึง 3.29 เท่า รองลงมาคือ สัดส่วนครัวเรือนที่ได้รับเงิน จากคนนอกครัวเรือน (ญาติ) ที่ 1.58 เท่า และ สัดส่วนครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบที่ 1.52 เท่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาคตะวันออกเฉียง เหนือ สูงกว่ าความแตกต่างระหว่ างกลุ่ มครั วเรือนฐานรากกับ กลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาพรวมทั่วประเทศ เกือบทุกตัวแปร ยกเว้นตัวแปรสัดส่วนครัวเรือนที่มี หนี้นอกระบบ และ สัดส่วนครัวเรือนที่ได้รับเงินจากคนนอกครัวเรือน (ญาติ) ที่ความแตกต่าง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าต่ำ ากว่าความแตกต่างภาพรวมทั่วประเทศ

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==