รายได้และการกระจายรายได้ของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ระดับจังหวัด
2 - 10 รายได้และการกระจายรายได้ของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ระดับจังหวัด รายได้ของครัวเรือน สามารถพิจารณาได้เป็น 2 ประเภท คือ รายได้ทั้งสิ้น และรายได้ ประจำ า ซึ่งรายได้ทั้ง 2 ประเภทนี้ มีคำ านิยามแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้ รายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อครัวเรือน จะนับรวมรายได้ทุกประเภทที่ครัวเรือนได้รับไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่ ครัวเรือนได้รับเป็นประจำ า เช่น รายได้จากการทำ างาน รายได้จากทรัพย์สิน เงินที่คนนอกครัวเรือนส่งมาให้เป็นประจำ า เป็นต้น หรือรายได้ที่ครัวเรือนได้รับไม่ประจำ าหรือเป็นครั้งคราว เช่น เงินที่ได้รับเป็นเงินรางวัล เงินถูกสลากกินแบ่ง เงินมรดก ของขวัญ เงินได้รับจากการประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ ไฟไหม้ หรือค่านายหน้า (ในกรณีที่ไม่ได้ประกอบ เป็นธุรกิจ) เป็นต้น ดังนั้น รายได้ทั้งสิ้นจึงสะท้อนถึงรายได้ที่ครัวเรือนได้รับทั้งหมด ซึ่งเป็นศักยภาพด้านการเงินของ ครัวเรือนที่แท้จริงในช่วงเวลานั้น ๆ เท่านั้น แต่ไม่ได้สะท้อนว่า ครัวเรือนจะมีศักยภาพด้านการเงินเช่นเดียวกันนี้ ในช่วงเวลาอื่นที่ใกล้เคียงกันด้วย เพราะรายได้ไม่ประจำ าบางประเภท มีมูลค่าสูง แต่จะได้รับเพียงครั้งเดียวหรือนาน ๆ ครั้งเท่านั้น เช่น เงินถูกสลากกินแบ่ง เงินมรดก เป็นต้น รายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อครัวเรือน เป็นรายได้ในสภาวะปกติ ที่ครัวเรือนได้รับเป็นประจำ า ตามกำ าหนดระยะเวลา ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำ างาน หรือ รายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทำ างานแต่ได้รับเป็นประจำ า เช่น เงินที่ลูกส่งมาให้ ดอกเบี้ยรับ เป็นต้น โดยไม่รวมรายได้บางประเภทที่ครัวเรือนจะได้รับในบางโอกาสหรือนาน ๆ ครั้ง ดังนั้นรายได้ประจำ าจึงแสดงให้เห็นถึงความสามารถหรือศักยภาพด้านการเงินในช่วงเวลานั้นและยังสะท้อนถึงศักยภาพ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ในการศึกษาเกี่ยวกับรายได้ จึงนิยมใช้รายได้ประจำ ามากกว่ารายได้ทั้งสิ้น เนื่องจากรายได้ประจำ าแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของครัวเรือนได้ดีกว่ารายได้ทั้งสิ้น สำ าหรับ รายได้เฉลี่ยต่อคน คำ านวณจากการนำ ารายได้ของครัวเรือนในแต่ละครัวเรือนหารด้วย จำ านวนสมาชิกของครัวเรือนนั้น (ไม่รวมคนรับใช้) ซึ่งสมาชิกในครัวเรือน อาจมีทั้งผู้ที่ทำ างานมีรายได้ และผู้ที่ไม่มีรายได้ (ไม่ได้ทำ างาน) เช่น เด็กและเยาวชนที่กำ าลังเรียน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น จากการวิเคราะห์ด้านรายได้ (ตาราง 3) พบว่า รายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อครัวเรือน และรายได้ ประจำ าเฉลี่ยต่อครัวเรือนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑลมีค่าสูงสุด 39,087 บาทต่อเดือน และ 38,905 บาทต่อเดือน ตามลำ าดับ และในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าน้อยที่สุด 22,524 บาทต่อเดือน และ 22,130 บาทต่อเดือน ตามลำ าดับ ส่วนรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อคน และรายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อคน ยังคงมีค่าสูงสุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 3 จังหวัดปริมณฑล 16,503 บาทต่อเดือน และ 16,426 บาทต่อเดือน ตามลำ าดับ และมีค่าน้อยที่สุดในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ 7,973 บาทต่อเดือน และ 7,833 บาทต่อเดือน ตามลำ าดับ เมื่อพิจารณารายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อครัวเรือนและเฉลี่ยต่อคน ระดับจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มี รายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อครัวเรือนมากที่สุดและน้อยที่สุดของประเทศ คือ ปทุมธานี (45,067 บาทต่อเดือน) และเชียงราย (15,649 บาทต่อเดือน) ตามลำ าดับ ซึ่งต่างกันถึง 2.9 เท่า ส่วนจังหวัดที่มีรายได้ประจำ าเฉลี่ย ต่อคนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร (17,357 บาทต่อเดือน) และจังหวัดที่มีรายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อคนน้อยที่สุด คือ จังหวัดปัตตานี (5,272 บาทต่อเดือน) หากเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย (Mean) กับค่ามัธยฐาน (Median) ของรายได้ครัวเรือน พบว่า ค่าเฉลี่ย (Mean) สูงกว่าค่ามัธยฐาน (Median) ในทุกระดับทุกพื้นที่ บ่งชี้ให้เห็นว่า ส่วนแบ่งของรายได้ส่วนใหญ่ ตกไปอยู่ในกลุ่มครัวเรือนรายได้สูง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ าของการกระจายรายได้ได้อย่างชัดเจน
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==