รายได้และการกระจายรายได้ของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ระดับจังหวัด

50 2 - รายได้และการกระจายรายได้ของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ระดับจังหวัด 2.3.1 สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้้ของครัวเรือน สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ เป็นสัดส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความเพียงพอของรายได้ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย โดยในที่นี้ได้คำ านวณออกมาเป็นร้อยละ กล่าวคือ หากค่าสัดส่วนคำ านวณออกมา มีค่าน้อยกว่า 100 หมายความว่า ครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารายได้หรือมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ซึ่งในกรณีนี้ ครัวเรือนมีโอกาสเก็บออม หากค่าสัดส่วนมีค่าเท่ากับ 100 หมายความว่าครัวเรือนหารายได้มาได้พอดีกับค่าใช้จ่าย และหากค่าสัดส่วนมีค่ามากกว่า 100 หมายความว่าครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้หรือรายได้ที่หามาได้ไม่เพียงพอ ต่อภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งในกรณีนี้ครัวเรือนอาจจะต้องกู้ยืมหรือนำ าเงินออมของตนออกมาใช้เพื่อให้เพียงพอกับภาระ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รายงานฉบับนี้ได้คำ านวณสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ไว้ 3 รูปแบบ ซึ่งจะสะท้อนภาวะ ค่าใช้จ่ายกับรายได้ (ตาราง 13) ดังนี้ 1) สัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ทั้งสิ้น สะท้อนให้เห็นว่ารายได้ที่ได้รับเป็นประจำ า และรายได้อื่นที่ไม่ประจำ า เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายปกติในชีวิตประจำ าวันและค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากการดำ าเนินชีวิต ปกติที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ 2) สัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ประจำ า สะท้อนให้เห็นว่ารายได้ที่ได้รับเป็นประจำ า เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายปกติในชีวิตประจำ าวันและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ 3) สัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคต่อรายได้ประจำ า สะท้อนให้เห็นว่ารายได้ ที่ได้รับเป็นประจำ า เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายปกติในชีวิตประจำ าวันหรือไม่ พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ทั้ง 3 รูปแบบ พบว่า สัดส่วน ของค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ทั้งสิ้น และสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ประจำ า มีค่าไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของครัวเรือนไทยเป็นรายได้ประจำ า ส่วนรายได้ไม่ประจำ าซึ่งเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้งในรอบปี ซึ่งมีสัดส่วนต่ำ าเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ จะสังเกตได้ว่า สัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ทั้งสิ้น จะมีค่าที่สูงกว่า สัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคต่อรายได้ประจำ าด้วย (ตาราง 13) หากพิจารณาสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ตาราง 13) พบว่า ครัวเรือนทั่วประเทศ มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ทั้งสิ้น คิดเป็นร้อยละ 81.6 ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ประจำ า คิดเป็นร้อยละ 82.5 สำ าหรับสัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคต่อรายได้ประจำ า คิดเป็นร้อยละ 71.9 โดยภาคที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่าย เพื่อการอุปโภคบริโภคต่อรายได้ประจำ าสูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คิดเป็นร้อยละ 74.7 รองลงมา คือ พื้นที่ กรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑล และภาคใต้ คิดเป็นร้อยละ 71.7 และ 71.5 ตามลำ าดับ เมื่อพิจารณาสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในระดับจังหวัด พบว่า จังหวัดร้อยเอ็ด มีสัดส่วน ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ทั้งสิ้น และสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นต่อรายได้ประจำ าสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 96.7 และ 100.2 ตามลำ าดับ ซึ่งแสดงถึงความเสี่ยงที่จะมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ส่วนจังหวัดที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายเพื่อการ อุปโภคบริโภคต่อรายได้ประจำ าสูงสุด คือ นราธิวาส (ร้อยละ 92.3) รองลงมาคือ ร้อยเอ็ด (ร้อยละ 87.1) และลำ าพูน (ร้อยละ 73.7)