รายได้และการกระจายรายได้ของครัวเรือน พ.ศ. 2564 ระดับจังหวัด

42 2 - จังหวัด ครัวเรือน ทั้งหมด ผู้ถือครอง ทำ าการ เกษตร ผู้ประกอบ ธุรกิจ ที่ไม่ใช่ การเกษตร ลูกจ้าง ผู้ไม่ได้ ปฏิบัติงาน ในเชิง เศรษฐกิจ ลูกจ้าง ทั้งหมด ผู้จัดการ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงาน วิชาชีพ เสมียน พนักงานขาย และให้บริการ ผู้ปฏิบัติงาน ในการผลิต ก่อสร้าง และเหมืองแร่ คนงานเกษตร ป่าไม้ และประมง ภูเก็ต 57.4 46.1 61.7 60.4 60.9 58.9 39.3 ยะลา 44.2 32.3 68.5 58.8 65.0 51.8 9.7 ระนอง 37.3 49.0 43.7 35.8 53.6 13.3 14.5 สงขลา 39.4 41.4 52.1 44.2 48.9 36.8 21.5 สตูล 53.6 49.4 63.6 57.2 47.7 66.6 36.6 สุราษฎร์ธานี 59.5 66.9 78.2 57.2 67.2 47.8 N/A หมายเหตุ : N/A หมายถึง not applicable เมื่อพิจารณามูลค่าหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่เป็นหนี้ ตามสถานะทางเศรษฐสังคม (ตาราง 11) พบว่า ครัวเรือนลูกจ้างที่เป็นผู้จัดการ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพ เสมียน พนักงานขายและให้บริการมีมูลค่า หนี้สินเฉลี่ยสูงกว่าครัวเรือนประเภทอื่น ๆ และหากพิจารณาดูในพื้นที่แต่ละภาค พบว่า ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑล และภาคเหนือ ครัวเรือนลูกจ้างที่เป็นผู้จัดการ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพ เสมียน พนักงานขายและให้บริการ มีมูลค่าหนี้สินเฉลี่ยสูงสุดเมื่อเทียบกับครัวเรือนประเภทอื่น ๆ (675,981 665,591 และ 537,117 บาทต่อครัวเรือน ตามลำ าดับ) ส่วนภาคใต้ และภาคกลาง ที่เป็นครัวเรือนผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร มีมูลค่าหนี้สินเฉลี่ยสูงสุดเมื่อเทียบกับครัวเรือนประเภทอื่น ๆ (495,150 และ 486,892 บาทต่อครัวเรือน ตามลำ าดับ) หากพิจารณามูลค่าหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่เป็นหนี้ในระดับจังหวัด พบว่า ครัวเรือนในจังหวัด นนทบุรี มีมูลค่าหนี้สินเฉลี่ยสูงสุด (677,866 บาทต่อครัวเรือน) รองลงมาคือ จังหวัดปทุมธานี (656,752 บาท ต่อครัวเรือน) และจังหวัดสมุทรสาคร (631,103 บาทต่อครัวเรือน) และเมื่อพิจารณามูลค่าหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่เป็นหนี้ ตามสถานะทางเศรษฐสังคมของครัวเรือนในแต่ละจังหวัด พบว่า ในจังหวัดปราจีนบุรี ครัวเรือนผู้ถือครองทำ าการเกษตร มีมูลค่าหนี้สินเฉลี่ยสูงสุด (741,310 บาทต่อครัวเรือน) ส่วนครัวเรือนผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตรมีหนี้เฉลี่ยสูงสุด ในจังหวัดน่าน (1,323,957 บาทต่อครัวเรือน) ครัวเรือนลูกจ้างที่เป็นผู้จัดการ นักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพ เสมียน พนักงานขายและให้บริการมีหนี้เฉลี่ยสูงสุดอยู่ในจังหวัดเลย (1,121,298 บาทต่อครัวเรือน) ครัวเรือนลูกจ้างที่เป็นผู้ปฏิบัติ งานในการผลิต ก่อสร้าง และเหมืองแร่ คนงานเกษตร ป่าไม้ และประมงมีหนี้เฉลี่ยสูงสุดอยู่ในจังหวัดชลบุรี (509,207 บาท ต่อครัวเรือน) และครัวเรือนผู้ไม่ได้ปฏิบัติงานในเชิงเศรษฐกิจ มีหนี้เฉลี่ยสูงสุดในจังหวัดสมุทรสาคร (1,485,188 บาทต่อ ครัวเรือน) สำ าหรับวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม (ตาราง 12) พบว่า ครัวเรือนในทุกภาค ยกเว้นในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑล กู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนมากกว่าวัตถุประสงค์อื่น โดยจังหวัดที่มีสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคสูงสุด คือจังหวัดขอนแก่น ร้อยละ 68.7 รองลงมาคือจังหวัดนราธิวาส ร้อยละ 63.2 และจังหวัดสกลนคร ร้อยละ 61.7 ในขณะที่ครัวเรือนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดปริมณฑล โดยส่วนใหญ่กู้ยืมเงินไปเพื่อใช้ซื้อ/เช่าซื้อบ้านและ/หรือที่ดิน โดยเฉพาะครัวเรือนในจังหวัดนนทบุรีที่หนี้สินร้อยละ 66.2 เกิดจากการซื้อ/เช่าซื้อบ้านและ/หรือที่ดิน ส่วนจังหวัดที่มีสัดส่วนหนี้สินเพื่อการเกษตรสูงสุด คือ จังหวัดพิษณุโลก ร้อยละ 56.2 และจังหวัดที่มีสัดส่วนหนี้สินเพื่อใช้ประกอบธุรกิจสูงสุด คือ จังหวัดน่าน ร้อยละ 32.6 ตาราง 10 ร้อยละของครัวเรือนที่มีหนี้สิน จำ าแนกตามสถานะทางเศรษฐสังคมของครัวเรือน รายจังหวัด (ต่อ)

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==