สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 อุตสาหกรรมการผลิต: ปริมณฑล

คำนำ ภาคธุ รกิ จและอุ ตสาหกรรม นั บเป็ นส่ วนสำคัญในการขั บเคลื่ อน การเจริ ญเติ บโตทางเศรษฐกิ จของประเทศ ทั้ งในแง่มูลค่าผลผลิ ตที่ สร้ างมูลค่า มากกว่าร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP ) และก่อให้เกิ ดการ จ้างงานโดยเฉลี่ ยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันผู้ประกอบการ มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญกับกระแสความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ ้น อาทิ ความขัดแย้ง ทางการค้ าโลก และการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิ ด-19 เป็นต้ น ซึ่ งส่งผลให้ โครงสร ้ างทางเศรษฐกิ จและสั งคมม ี การเปล ี่ ยนแปลงไปจากเด ิ มอย่ างมาก ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งปรับตัว โดยมีความจำเป็นที่จะต้องปรับกฎระเบี ยบ ปรับโครงสร้ างแรงจูงใจ และปรับนโยบายการแข่งขันทางการค้ า เพื่ อทำให้ ผู้ประกอบการไทยมีความสามารถในการแข่งขันเท่าเทียมต่างประเทศและเติบโต ได้ อย่างยั่งยื น ดังนั ้ น ข้ อมูลพื ้ นฐานเกี่ ยวกับภาคธุรกิ จและอุตสาหกรรมจึ งมี ความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ งเพื่ อให้ ประเทศมี โครงสร้ างพื ้ นฐานด้ านข้ อมูล ทางเศรษฐกิ จสำหรับภาครัฐและภาคเอกชนใช้ เป็นเครื่ องมื อในการสนับสนุน การกำหนดนโยบาย และวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ตลอดจนยกระดับศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ ในระยะยาว สำนักงานสถิ ติ แห่งชาติ ซึ่ งเป็นหน่วยงานหลักที่ รับผิ ดชอบในการผลิ ต ข้อมูลทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565 ขึ ้น เพื่อให้ประเทศมีข้อมูล พื ้ นฐานที่ สำคัญทางด้ านธุรกิ จและอุตสาหกรรม เพื่ อภาครัฐและเอกชนจะได้นำ ข้ อมูลไปใช้ ในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาด้ านเศรษฐกิ จรวมถึ ง การส่งเสริ มให้ ผู ้ ประกอบการรายย่อย ขนาดย่อม และขนาดกลาง ( MSMEs ) ให้ สามารถดำเนินธุรกิ จได้อย่างมี ประสิทธิภาพและยั่งยืน