การสำรวจยอดขายรายไตรมาส พ.ศ. 2566

การเปลี่ยนแปลงมูลค่าสินค้าคงเหลือของธุรกิจขายปลีกเทียบกับไตรมาสก่อน ภาพรวมของมูลค่าสินค้าคงเหลือของธุรกิจขายปลีกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ไตรมาส 1-4 มีมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ร้อยละ 39.8 ร้อยละ 7.3 ร้อยละ 8.2 และร้อยละ 12.5 ตามลำ ดับ ในส่วนของมูลค่าสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น พบว่า ไตรมาส 1-2 ธุรกิจขายปลีกเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนังและเครื่องประทินโฉม สินค้าใหม่อื่น ๆ และสินค้าใช้แล้ว มีมูลค่าสินค้า คงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 73.1 และร้อยละ 22.4 ตามลำ ดับ ไตรมาส 3 ธุรกิจขายปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 48.4 สำ หรับไตรมาส 4 ธุรกิจ ขายปลีกสิ่งทอ เครื่องโลหะ สี และกระจก พรม สิ่งปูพื้น วัสดุปิดผนังและปูพื้น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าสำ หรับให้แสงสว่าง ฯลฯ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 15.3 ส่วนมูลค่าสินค้าคงเหลือที่ลดลง พบว่า ไตรมาส 1 ธุรกิจขายปลีกหนังสือ หนังสือพิมพ์ และเครื่องเขียน สื่อบันทึกเสียงและภาพ เครื่องกีฬา เกมและของเล่น สินค้าอื่น ๆ ด้านวัฒนธรรม และนันทนาการ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงมากที่สุดร้อยละ 17.3 รองลงมาเป็นธุรกิจขายปลีก อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงที่ร้อยละ 9.2 ไตรมาส 2 ธุรกิจขายปลีก คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์สื่อสาร โทรคมนาคม และอุปกรณ์ภาพและเสียง มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงมากที่สุดร้อยละ 4.7 รองลงมาเป็นธุรกิจขายปลีกสิ่งทอ เครื่องโลหะ สี และกระจก พรม สิ่งปูพื้น วัสดุปิดผนังและปูพื้น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า สำ หรับให้แสงสว่าง ฯลฯ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงที่ร้  อยละ 3.5 ไตรมาส 3 ธุรกิจขายปลีกเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนังและเครื่องประทินโฉม สินค้าใหม่อื่น ๆ และสินค้าใช้แล้ว มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง มากที่สุดร้อยละ 1.2 สำ หรับไตรมาส 4 ธุรกิจขายปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือ ลดลงมากที่สุดร้อยละ 6.4 ญ

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==