การสำรวจยอดขายรายไตรมาส พ.ศ. 2566

ภาพรวมของมูลค่าสินค้าคงเหลือ ของธุรกิจขายปลีกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่า ไตรมาส 1-4 มีมูลค่าสินค้าคงเหลือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ร้อยละ 39.8 ร้อยละ 7.3 ร้อยละ 8.2 และร้อยละ 12.5 ตามลำ ดับ ในส่วนของมูลค่าสินค้าคงเหลือ ที่เพิ่มขึ้น พบว่า ไตรมาส 1-2 ธุรกิจขายปลีก เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนังและเครื่องประทินโฉม สินค้าใหม่อื่น ๆ และสินค้าใช้แล้ว มีมูลค่า สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุด ไตรมาส 3 ธุรกิจขายปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุด สำ หรับไตรมาส 4 ธุรกิจขายปลีกสิ่งทอ เครื่องโลหะ สี และกระจก พรม สิ่งปูพื้น วัสดุปิดผนังและปูพื้น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าสำ หรับให้แสงสว่าง ฯลฯ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นมากที่สุด ส่วนมูลค่าสินค้าคงเหลือที่ลดลง พบว่า ไตรมาส 1 ธุรกิจขายปลีกหนังสือ หนังสือพิมพ์ และเครื่องเขียน สื่อบันทึก เสียงและภาพ เครื่องกีฬา เกมและของเล่น สินค้าอื่น ๆ ด้านวัฒนธรรมและนันทนาการ มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงมากที่สุด รองลงมาเป็นธุรกิจขายปลีกอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ ไตรมาส 2 ธุรกิจขายปลีก คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์สื่อสาร โทรคมนาคม และอุปกรณ์ ภาพและเสียง มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง มากที่สุด รองลงมาเป็นธุรกิจขายปลีกสิ่งทอ เครื่องโลหะ สี และกระจก พรม สิ่งปูพื้น วัสดุปิดผนังและปูพื้น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้าสำ หรับให้แสงสว่าง ฯลฯ ไตรมาส 3 ธุรกิจขายปลีกเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องหนังและเครื่องประทินโฉม สินค้าใหม่อื่น ๆ และสินค้าใช้แล้ว มีมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลง มากที่สุด สำ หรับไตรมาส 4 ธุรกิจขายปลีก อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ มีมูลค่าสินค้า คงเหลือลดลงมากที่สุด 40

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==