ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2565

ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2565 92 1.1. เส้นความยากจนด้านอาหาร้ น้ า การคำ �นวณเส้นความยากจนด้านอาหารควรมีการปรับปรุงทุก 10 ปี เพื่อให้ สามารถสะท้อนแบบแผนการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งการเปลี่ยนแปลง แบบแผนการบริโภคจะมีผลต่อการคำ �นวณดัชนีราคาสินค้ารายพื้นที่ (spatial price indices: SPI) และต้นทุนสารอาหาร โดยในส่วนของการกำ �หนดความต้องการสารอาหาร ขั้นต่ำ �ของคนไทยนั้น กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้ง คณะทำ �งานเพื่อร่วมกันกำ �หนดความต้องการสารอาหารขั้นต่ำ �ของคนไทย และพบว่าแนวโน้ม คนไทยมีความต้องการแคลอรีน้อยลง แต่ต้องการโปรตีนมากขึ้น ซึ่งข้อมูลความต้องการ สารอาหารขั้นต่ำ �นี้ดังกล่าวจะกลายเป็นข้อมูลสำ �คัญสำ �หรับการคำ �นวณเส้นความยากจน ด้านอาหาร ทั้งนี้ การคำ �นวณเส้นความยากจนด้านอาหารจะอาศัยทฤษฎีการบริโภคตามที่ ได้พิสูจน์มาแล้วข้างต้นว่า ควรเป็นรูปแบบการบริโภคที่ทุกคนได้รับอรรถประโยชน์เท่ากัน ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ในภูมิภาคใด หรืออยู่ในเขตเมืองหรือชนบท นอกจากนี้ ทฤษฎีอรรถประโยชน์นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า อรรถประโยชน์ที่ ผู้บริโภคได้รับเป็น monotonic increasing function ของต้นทุนสารอาหาร ดังนั้น คนที่มีรูปแบบการบริโภคที่แตกต่างกันย่อมมีต้นทุนสารอาหารที่ต่างกัน (หมายถึงผู้ที่ บริโภคอาหารราคาแพงย่อมต้องจ่ายเงินมากกว่า) ดังนั้นการกำ �หนดต้นทุนสารอาหารจะ ทำ �ให้เราสามารถกำ �หนดระดับอรรถประโยชน์สำ �หรับรูปแบบการบริโภคที่แตกต่างกันได้ โดยได้รับอรรถประโยชน์เท่ากันถึงแม้จะอยู่คนละพื้นที่และมีรูปแบบการบริโภคแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ เส้นความยากจนด้านอาหาร จึงถูกกำ �หนดโดยต้นทุนสารอาหารและ ต้นทุนโปรตีน (Calorie cost and protein cost) ของประชากร 10% ที่จนที่สุด โดยที่ ต้นทุนสารอาหารนี้คำ �นวณโดยใช้ราคาในแต่ละภูมิภาคและเขตของอาหารแต่ละรายการ ก่อนที่จะถ่วงน้ำ �หนักด้วยสัดส่วนประชากรเพื่อคำ �นวณหาต้นทุนเฉลี่ยระดับประเทศและใช้ ดัชนีราคาอาหารรายพื้นที่ (SPI) เป็นตัวปรับความแตกต่างของพื้นที่ (ภาค/เขต) อีกครั้ง

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==