Thailand Environment Statistics 2020 - page 31

ข้อมูลพื้นฐาน
สถิติสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย พ.ศ.2563
29
บทที่ 1
ข้อมูลพื้นฐาน
ภู มิประเทศ: ประเทศไทยตั้งอยู่ ในภู มิภาคเอเชียตะวั นออกเฉียงใต้ มี พื้นที่ ทั้ งสิ้น
513,139.6 ตร.กม. แบ่ งพื้นที่ตามลั กษณะภูมิประเทศ โดยภาคเหนือมีลักษณะเป็นภูเขา และ
ป่ าทึบ ภาคตะวั นออกเฉียงเหนื อมีพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นที่ ราบสูง และแห้ งแล้ง ภาคกลางเป็น
ที่ ราบลุ่ม และภาคใต้มีลักษณะเป็นคาบสมุ ทรมีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 3,151.1 กิโลเมตร
โดยมีพื้นที่ ติดชายฝั่งทะเลถึงสองด้านคือ ชายฝั่งทะเลตะวันออกติดกับอ่าวไทยด้านมหาสมุ ทร
แปซิฟิค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ งของทะเลจี นใต้ และชายฝั่งทะเลตะวันตกติดกับทะเลอันดามั นด้าน
มหาสมุทรอินเดีย มีภูเขาทอดยาวเป็นแนวจากเหนือ – ใต้ ซึ่งภาคเหนือมีพื้นที่มากที่สุด 169,664.3
ตร.กม.หรือร้อยละ 33.1 ของพื้ นที่ทั้งประเทศ รองลงมาคือ ภาคตะวั นออกเฉียงเหนือ และ
ภาคกลาง (รวมปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคตะวั นตก) คิดเป็นร้อยละ 32.9 และ 19.9
ตามลำ าดับ ภาคใต้มี พื้นที่น้ อยที่สุดคือ ร้ อยละ 13.8 สำาหรับกรุ งเทพมหานคร มีพื้นที่เพี ยง
ร้อยละ 0.3 ของพื้นที่ทั้งประเทศเท่านั้น (ตารางที่ 1.1)
ประชากร: ในปี 2562 ประเทศไทยมีประชากรทั้งสิ้น 66.6 ล้านคน (ตารางที่ 1.3)
มีอัตราเพิ่มร้อยละ 0.2 (ตารางที่ 1.4) และมีความหนาแน่นของประชากร 129.7 คนต่อตร.กม.
โดยกรุงเทพมหานครมีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุด 3,612.0 คนต่ อตร.กม. ส่วนจังหวัด
แม่ ฮ่องสอนมีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด คือ 22.4 คนต่อตร.กม. (ตารางที่ 1.5)
จากการสำารวจการย้ายถิ่นของประชากรของสำานักงานสถิติแห่ งชาติ พบว่า
จำ านวนผู้ย้ายถิ่นลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากปี 2560 มีผู้ย้ายถิ่ น 6.3 แสนคน หรือคิดเป็น
อัตราการย้ายถิ่นร้อยละ 0.9 ของประชากรทั้งประเทศ และในปี 2561 มีผู้ย้ายถิ่น 5.7 แสนคน
หรือคิ ดเป็ นอัตราการย้ายถิ่ นร้อยละ 0.8 ของประชากรทั ้งประเทศ ซึ ่งลดลงร้อยละ 10.0
เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยภาคกลางมีจำานวนผู้ย้ายถิ่นมากที่สุ ด (2.0 แสนคน) รองลงมาคือ
ภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือ และภาคเหนือ มีจำานวนผู้ย้ายถิ่ น 1.4 แสนคน และ 1.1 แสนคน
ตามลำ าดั บ ส่วนกรุ งเทพมหานคร มีผู้ย้ายถิ่นน้อยที่ สุด 0.4 แสนคนเท่านั ้น แต่ ที่น่าสนใจคือ
จำานวนผู้ ย้ายถิ่นในทุ กภาคลดลงเมื่อเที ยบกับ ปี 2560 ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ที่มีจำ านวน
ผู้ย้ ายถิ่นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.0 ซึ่งอาจเป็ นได้ว่าประชาชนย้ ายกลั บภูมิ ลำาเนาหรือไปทำางาน
ภาคอื่ นแทนการแออัดอยู่ ในเมืองหลวงก็เป็นได้