สถิติสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย พ.ศ. 2567

ข้อมูลพื้นฐาน สถิติสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย พ.ศ. 2567 5 บทที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน ในปี 2566 ประเทศไทยมีจำ �นวนประชากรทั้งสิ้น 66,052.6 พันคน อัตราการเติบโต ของประชากรลดลง ร้อยละ 0.06 จากปี 2565 (ปี 2565 มีจำ �นวนประชากร 66,090.5 พันคน) แบ่งเป็นประชากรเพศชาย 32,224.0 พันคน และประชากรเพศหญิ ง 33,828.6 พันคน (ตารางที่ 1.3) สำ �หรับความหนาแน่นของประชากร พบว่า ประเทศไทยมี ความหนาแน่น ของประชากร 128.7 คนต่อตร.กม. โดยภาคที่ มี ความหนาแน่นของประชากรมากที่ สุด คือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,402.8 คนต่อตร.กม. รองลงมาเป็นภาคกลาง 179.5 คน ต่อตร.กม. และภาคใต้ 134.5 คนต่อตร.กม. ตามลำ �ดับ สำ �หรับภาคที่ มี ความหนาแน่น ของประชากรน้ อยที่ สุด คือ ภาคเหนือ 70.4 คนต่อตร.กม. สำ �หรับจังหวัดที่ ความหนาแน่น ของประชากรมากที่ สุด คื อ กรุงเทพมหานครมี ความหนาแน่นของประชากร 3,487.9 คน ต่อตร.กม. และจังหวัดที่ มี ความหนาแน่นของประชากรน้ อยที่ สุด คือ แม่ฮ่องสอน 22.7 คน ต่อตร.กม. (ตารางที่ 1.5) จากข้อมูลจำ �นวนผู้ย้ายถิ่น พบว่า ในปี 2566 มีจำ �นวนผู้ย้ายถิ่น 981.5 พันคน หรือคิดเป็น อัตราการย้ายถิ่นร้อยละ 1.4 ของประชากรทั้งประเทศ หากพิจารณาจำ �นวนผู้ย้ายถิ่นในปี 2566 เทียบกับปี 2565 พบว่า จำ �นวนผู้ย้ายถิ่นเพิ่มขึ้น 172.7 พันคน สำ �หรับภาคที่มีจำ �นวนผู้ย้ายถิ่น มากที่สุด คือ ภาคกลาง 470.2 พันคน คิดเป็นอัตราการย้ายถิ่นร้อยละ 2.2 ของประชากร ทั้งประเทศ และภาคที่มีจำ �นวนผู้ย้ายถิ่นน้อยที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร 57.7 พันคน คิดเป็น อัตราการย้ายถิ่นร้อยละ 0.6 ของประชากรทั้งประเทศ หากพิจารณาประเภทการย้ายถิ่น พบว่า มีจำ �นวนผู้ย้ายถิ่นในภาคเดียวกันมากที่สุด 606.8 พันคน รองลงมาเป็นย้ายระหว่างภาค 299.7 พันคน และย้ายมาจากต่างประเทศ 75.1 พันคน ตามลำ �ดับ (ตารางที่ 1.6) ดังนั้นจากข้อมูล การย้ายถิ่นที่กล่าวมาข้างต้น หน่วยงานภาครัฐควรให้ความสำ �คัญกับจำ �นวนผู้ย้ายถิ่นที่เพิ่มขึ้น ควรพิ จารณาหาสาเหตุของการย้ ายถิ่ น เช่น การหางานทำ � การเปลี่ ยนงาน ศึ กษาต่อ ย้ ายที่ อยู่อาศัย กลับภูมิ ลำ �เนา ติ ดตามคนในครอบครัว ฯลฯ เพื่ อหามาตราการรองรับจำ �นวนผู้ ย้ ายถิ่ นที่ เพิ่ มมากขึ้ น ในแต่ละพื้ นที่ เช่น ควรมี การวางแผนเมื องเพื่ อรองรับการย้ ายถิ่ น โดยจัดให้ มี ที่ อยู่อาศัย สาธารณูปโภค และบริการสาธารณะที่เพียงพอ ควรมีการพัฒนาบริการทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อให้คนย้ายถิ่นสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง เป็นต้น