- page 305
สถิ
ติ
สวั
สดิ
การสั
งคม
สถิ
ติ
สวั
สดิ
การสั
งคมที่
เสนอในบทนี้
ได
ข
อมู
ลมาจาก
สํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
สํ
านั
กงานธนานุ
เคราะห
กระทรวงการ
พั
ฒนาสั
งคมและความมั่
นคงของมนุ
ษย
และ
สํ
านั
กงานประกั
นสั
งคม
กระทรวงแรงงาน
ภาครั
ฐและเอกชนในประเทศต
างๆ ได
ให
ความสํ
าคั
ญ
ในเรื่
องสวั
สดิ
การ
เพื่
อช
วยเหลื
อผู
ด
อยโอกาสทั้
งทางด
าน
เศรษฐกิ
จและสั
งคม
ซึ่
งจะเห็
นได
จากนโยบายของประเทศส
วนใหญ
จะมี
สวั
สดิ
การสั
งคมภายใต
ความคุ
มครองดู
แลของรั
ฐบาล
ดั
งนั้
น ข
อมู
ลสถิ
ติ
เกี่
ยวกั
บสวั
สดิ
การสั
งคมจะสะท
อนการมี
ส
วนร
วมของทุ
กฝ
ายเป
นอย
างดี
ข
อมู
ลสถิ
ติ
ที่
นํ
าเสนอในบทนี้
จะ
เกี่
ยวกั
บสวั
สดิ
การสั
งคมที่
ให
ความช
วยเหลื
อแก
ประชาชน ภายใต
นโยบายการบริ
หารงานของรั
ฐบาล
เช
น
สวั
สดิ
การค
า
รั
กษาพยาบาล
การรั
บจํ
านํ
าทรั
พย
สิ
น
สิ่
งของ
ในอั
ตราดอกเบี้
ยต่ํ
า
และ
การประกั
นตน
เป
นต
น
สถิ
ติ
การสํ
ารวจอนามั
ยและสวั
สดิ
การ
สํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
ได
จั
ดเก็
บข
อมู
ลด
านอนามั
ยและสวั
สดิ
การอย
าง
ต
อเนื่
องมาตั้
งแต
จั
ดทํ
าครั้
งแรก ในป
พ.ศ. 2517 และการสํ
ารวจป
2552 เป
นการสํ
ารวจครั้
งล
าสุ
ด ซึ่
งมี
วั
ตถุ
ประสงค
เพื่
อรวบรวมข
อมู
ลของประชากรเกี่
ยวกั
บการได
รั
บสวั
สดิ
การค
ารั
กษาพยาบาล ภาวะการเจ็
บป
วย การเข
ารั
บบริ
การด
าน
สาธารณสุ
ข ค
าใช
จ
ายในการรั
บบริ
การด
านสาธารณสุ
ข และการเข
าถึ
งสวั
สดิ
การค
ารั
กษาพยาบาลของประชากร เป
นต
น
สถิ
ติ
ทรั
พย
จํ
านํ
า ไถ
ถอน และทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า
เป
นข
อมู
ลที่
ได
รั
บจากสํ
านั
กงานธนานุ
เคราะห
ที่
แสดงถึ
งทรั
พย
รั
บจํ
านํ
า ทรั
พย
ไถ
ถอน ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า
ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า หมายถึ
ง ทรั
พย
จํ
านํ
าที่
ผู
จํ
านํ
าขาดส
งดอกเบี้
ยติ
ดต
อกั
นเป
นเวลาเกิ
นกว
า
4
เดื
อน และไม
ได
ถอน
คื
นภายในกํ
าหนดระยะเวลา
30
วั
น นั
บตั้
งแต
วั
นที่
สถานธนานุ
เคราะห
ประกาศบั
ญชี
ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
าที่
ผู
จํ
านํ
าขาดส
งดอกเบี้
ย
ทรั
พย
จํ
านํ
านั้
นจะหลุ
ดเป
นสิ
ทธิ์
สถานธนานุ
เคราะห
ประกั
นสั
งคม
เป
นข
อมู
ลที่
ได
รั
บจากสํ
านั
กงานประกั
นสั
งคม ที่
แสดงถึ
ง จํ
านวนสถานประกอบการ จํ
านวน
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา
33
จํ
านวนผู
ประกั
นตนตามมาตรา
39
จํ
านวนผู
ประกั
นตนตามมาตรา
40
และจํ
านวนการใช
บริ
การ
ของผู
ประกั
นตนในแต
ละกรณี
ซึ่
งสํ
านั
กงานประกั
นสั
งคมได
มี
การจํ
าแนกเป
น
7
กรณี
ดั
งนี้
กรณี
เจ็
บป
วย กรณี
คลอดบุ
ตร
กรณี
ทุ
พพลภาพ กรณี
ตาย กรณี
สงเคราะห
บุ
ตร กรณี
ชราภาพ และกรณี
ว
างงาน
สถานประกอบการ หมายถึ
งที่
ประกอบธุ
รกิ
จอุ
ตสาหกรรมและบริ
การที่
มี
ลู
กจ
างตั้
งแต
1
คนขึ้
นไป ณ วั
นขึ้
น
ทะเบี
ยนประกั
นสั
งคม ยกเว
นกิ
จการเพาะปลู
ก ประมง ป
าไม
และเลี้
ยงสั
ตว
ซึ่
งมิ
ได
ใช
ลู
กจ
างตลอดป
และไม
มี
งานลั
กษณะอื่
น
รวมอยู
ด
วย จํ
านวนสถานประกอบการจะนั
บรวมสํ
านั
กงานใหญ
และสํ
านั
กงานสาขา (กรณี
ที่
แยกเป
นรายจั
งหวั
ดจะคํ
านึ
งถึ
ง
สถานี
ที่
ตั้
งของสถานประกอบการเป
นหลั
ก)
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา
33
หมายถึ
ง ผู
ซึ่
งขึ้
นทะเบี
ยนประกั
นสั
งคม และหรื
อจ
ายเงิ
นสมทบอั
นก
อให
เกิ
ดสิ
ทธิ
ได
รั
บ
ประโยชน
ทดแทน ตามพระราชบั
ญญั
ติ
ประกั
นสั
งคม พ.ศ.
2533
และที่
แก
ไขเพิ่
มเติ
ม
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา
39
หมายถึ
ง ผู
ซึ่
งเคยเป
นผู
ประกั
นตนตามมาตรา
33
และต
อมาความเป
นผู
ประกั
นตนได
สิ้
นสุ
ดลงตามมาตรา
38(2)
คื
อ สิ้
นสภาพการเป
นลู
กจ
างและได
แจ
งความประสงค
เป
นผู
ประกั
นตนต
อ
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา 40 หมายถึ
ง ผู
ที่
มิ
ใช
ลู
กจ
างตามมาตรา 33 และประสงค
จะสมั
ครเข
าเป
นผู
ประกั
นตนตาม
พระราชบั
ญญั
ติ
ประกั
นสั
งคม พ.ศ. 2533
1...,291,292,293,294-295,296,298-299,300-301,302,303,304
306,307,308,310-311,312-313,314-315,316,317,318,319,...978