พฤติกรรมการเป็
นหนี้
ของครั
วเรือนเกษตร พ.ศ.2554
3.4 ความสามารถในการชำ
�ระหนี้
ของครั
วเรือนเกษตร
ตั
วบ่งชี้ความสามารถในการชำ
�ระหนี้ของครั
วเรือน คือ สั
ดส่วนหนี้สินต่อรายได้
(คำ
�นวณจากการนำ
�มู
ลค่าหนี้สินทั
้
งหมดของครั
วเรือนหารด้วยรายได้ทั
้งสิ้นเฉลี่
ยต่อเดือนต่อ
ครั
วเรือน) ซึ่
งเมื่
อเปรียบเทียบความสามารถในการชำ
�ระหนี้ของครั
วเรือนเกษตร พบว่า ในปี
2554 ครั
วเรือนเกษตรมีความสามารถในการชำ
�ระหนี้ดีกว่าปี 2552 คือ จากที่
มีสั
ดส่วนหนี้สิน
ต่อรายได้เฉลี่
ยถึง 7.8 เท่าในปี 2552 ลดลงเหลือ 7.1 เท่าในปี 2554 โดยเฉพาะอย่างยิ่
ง
กรุ
งเทพมหานครมีสั
ดส่วนหนี้สินต่อรายได้ลดลงค่อนข้างมากจาก 13.4 เท่าในปี 2552 เหลือ
เพียง 4.4 เท่าในปี 2554 และเมื่
อเปรียบเทียบภาคต่างๆ ในปี 2554 พบว่า ภาคเหนือมีสั
ดส่วน
หนี้สินต่อรายได้สู
งกว่าภาคอื่
นๆ คือ 8.3 เท่า รองลงมาคือภาคกลาง ภาคตะวั
นออกเฉียง-
เหนือ และภาคใต้ มีสั
ดส่วนหนี้สินต่อรายได้ 8.1 เท่า 8.0 เท่า และ 6.6 เท่า ตามลำ
�ดั
บ
แผนภู
มิ 24
สั
ดส่วนหนี้สินต่อรายได้ของครั
วเรือนเกษตรที่
เป็
นหนี้ จำ
�แนกตามภาค
ปี 2552 และ 2554
หากพิ
จารณาความสามารถในการช�
ำระหนี้
ตามระดั
บรายได้
ทั
้
งสิ้
นของครั
วเรื
อน
เกษตรที่
เป็
นหนี้
พบว่า ครั
วเรื
อนเกษตรที่
เป็
นหนี้
และมี
รายได้ทั
้
งสิ้
นไม่เกิ
น 10,000 บาทเป็
น
กลุ
่มที่
มี
สั
ดส่วนหนี้
สิ
นต่อรายได้สู
งที่
สุ
ดเมื่
อเที
ยบกั
บครั
วเรื
อนเกษตรกลุ
่มอื่
นๆที่
เป็
นหนี้
โดยมี
มู
ลค่าหนี้
สิ
นทั
้
งหมดถึ
ง 9.9 เท่าของรายได้ทั
้
งสิ้
นต่อเดื
อน ในขณะที่
ครั
วเรื
อนเกษตรที่
เป็
นหนี้
ที่
มี
รายได้ทั
้
งสิ้
นต่อเดื
อนตั
้
งแต่ 30,001 บาทขึ้
นไป มี
สั
ดส่วนหนี้
สิ
นต่อรายได้เพี
ยง 6.0 เท่า
นั่
นแสดงให้เห็
นว่าครั
วเรือนที่
มีรายได้สู
งจะมีความสามารถในการช�
ำระหนี้ได้ดีกว่าครั
วเรือนที่
มี
รายได้ต�่
ำ
50
0.0
3.0
6.0
9.0
12.0
15.0
7.8
13.4
8.1
8.3
8.0
6.6
7.1
4.4
8.2
8.3
6.9
5.7
ปี
2552 ปี
2554
ภาค
สั
ดส่
วนหนี้
สิ
นต่
อรายได้
(เท่
า)