1. แผนที่
ควำมยำกจน (Poverty Maps) คื
ออะไร
กำรจั
ดทำโครงกำรแผนที่
ควำมยำกจนเป็
นกำรนำเสนอข้
อมู
ลเชิ
งพื้
นที่
เพื่
อแสดงให้
เห็
นสถำนะ
ทำงเศรษฐกิ
จ ภำวะควำมยำกจน และกำรกระจำยรำยได้
ของครั
วเรื
อน ตั้
งแต่
ระดั
บทั่
วรำชอำณำจั
กร ภำค
จั
งหวั
ด อำเภอ และตำบล ซึ่
งสำมำรถนำเสนอในระบบสำรสนเทศภู
มิ
ศำสตร์
(Geographic Information
System : GIS) จั
ดทำขึ้
นโดยกำรเชื่
อมโยงข้
อมู
ลกำรสำรวจภำวะเศรษฐกิ
จและสั
งคมของครั
วเรื
อน และข้
อมู
ล
สำมะโนประชำกรและเคหะเข้
ำด้
วยกั
น โดยใช้
วิ
ธี
Small Area Estimation ของธนำคำรโลก
ร่
วมกั
บวิ
ธี
กำร
ทำงสถิ
ติ
และเศรษฐมิ
ติ
แผนที่
ควำมยำกจนเป็
นเครื่
องมื
อสำคั
ญสำหรั
บภำครั
ฐใช้
ในกำรกำหนดนโยบำย วำงแผนงำน
ติ
ดตำมและประเมิ
นผล โดยผู้
ดำเนิ
นงำนในระดั
บนโยบำยสำมำรถทรำบว่
ำพื้
นที่
ที่
มี
ควำมยำกจนอยู่
ที่
ไหนบ้
ำง
ระดั
บควำมยำกจน และควำมรุ
นแรงของควำมยำกจนในพื้
นที่
นั้
นๆ เป็
นอย่
ำงไร ซึ่
งมี
ควำมจำเป็
นต่
อรั
ฐบำลใน
กำรจั
ดสรรทรั
พยำกรที่
มี
อยู่
อย่
ำงจำกั
ดให้
มี
ประสิ
ทธิ
ภำพ และประสิ
ทธิ
ผล
2. ประโยชน์
ของแผนที่
ควำมยำกจน
1) ใช้
วั
ดกำรกระจุ
กตั
ว และกำรกระจำยตั
วของคนจน
2)
เพิ่
มควำมเข้
ำใจเกี่
ยวกั
บอิ
ทธิ
พลของปั
จจั
ยพื้
นที่
ต่
อควำมยำกจน
3) สนั
บสนุ
นกำรดำเนิ
นนโยบำยขจั
ดควำมยำกจนของภำครั
ฐ ช่
วยในกำรจั
ดสรรงบประมำณ
และทรั
พยำกรอื่
นๆ ให้
สอดคล้
องกั
บจำนวนคนจน ระดั
บควำมยำกจน และควำมรุ
นแรงของควำมยำกจน
ในแต่
ละพื้
นที่
อย่
ำงเหมำะสมและเท่
ำเที
ยม
4) ช่
วยประเมิ
นผลกำรดำเนิ
นงำนตำมนโยบำยแก้
ไขปั
ญหำควำมยำกจน อั
นจะนำไปสู่
กำรเพิ่
ม
ประสิ
ทธิ
ภำพในกำรดำเนิ
นนโยบำย
3. แนวคิ
ดกำรวั
ดควำมยำกจน
ควำมยำกจน หมำยถึ
ง ควำมขำดแคลนหรื
อไม่
พอเพี
ยงต่
อกำรดำรงชี
พตำมควำมจำเป็
น
พื้
นฐำน
(ปั
จจั
ยสี่
) กำรขำดศั
กยภำพในกำรดำเนิ
นชี
วิ
ต เนื่
องจำกขำดแคลนทรั
พยำกรหรื
อปั
จจั
ยกำรผลิ
ต
กำรขำดควำมรู้
ควำมสำมำรถ ขำดทำงเลื
อก ขำดกำรรั
บรู้
ข่
ำวสำร ไม่
สำมำรถเข้
ำถึ
งบริ
กำรขั้
นพื้
นฐำน
ตลอดจนขำดกำรมี
ส่
วนร่
วมในกำรปกครองสั
งคม และวั
ฒนธรรมในกำรดำเนิ
นชี
วิ
ต
สำหรั
บเกณฑ์
วั
ดว่
ำใครคื
อคนจน กำหนดเส้
นแบ่
งด้
วยเกณฑ์
มำตรฐำนควำมต้
องกำรอำหำร
และสิ่
งจำเป็
นพื้
นฐำนขั้
นต่
ำที่
เพี
ยงพอต่
อกำรดำรงชี
พของแต่
ละบุ
คคล เรี
ยกว่
ำ เส้
นควำมยำกจน
(Poverty Line)
ซึ่
งคำนวณเป็
นตั
วเงิ
นที่
สะท้
อนต้
นทุ
นหรื
อค่
ำใช้
จ่
ำยของปั
จเจกบุ
คคลในกำรได้
มำซึ่
งอำหำร
และสิ่
งจำเป็
นพื้
นฐำนขั้
นต่
ำที่
ทำให้
สำมำรถดำรงชี
พได้
มี
หน่
วยเป็
นบำทต่
อคนต่
อเดื
อน หำกบุ
คคลใดมี
ระดั
บ
รำยได้
หรื
อค่
ำใช้
จ่
ำย (ระดั
บกำรบริ
โภค) ต่
ำกว่
ำเส้
นควำมยำกจนถื
อเป็
นคนจน
เส้
นควำมยำกจนด้
ำนอำหำรกำหนดขึ้
นจำกควำมต้
องกำรปริ
มำณสำรอำหำร แคลอรี
และ
โปรตี
นของคนซึ่
งแตกต่
ำงกั
นตำมเพศและอำยุ
รวมทั้
งแบบแผนกำรบริ
โภค และค่
ำครองชี
พที่
แตกต่
ำงกั
น
ตำมภู
มิ
ภำคและพื้
นที่
แต่
ได้
รั
บควำมพึ
งพอใจหรื
ออรรถประโยชน์
(Utility) เท่
ำกั
น ทั้
งนี้
กำรกำหนดรู
ปแบบ
กำรบริ
โภคเป็
นตะกร้
ำสิ
นค้
ำอุ
ปโภคบริ
โภค (Consumption Baskets) ที่
แตกต่
ำงกั
นตำมพื้
นที่
จำนวน
9 ตะกร้
ำ ประกอบด้
วย 1 ตะกร้
ำสิ
นค้
ำของกรุ
งเทพมหำนคร และ 8 ตะกร้
ำสิ
นค้
ำแยกเขตเมื
องและเขต
ชนบทของภำคเหนื
อ ภำคกลำง ภำคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ และภำคใต้
เพื่
อสะท้
อนรู
ปแบบกำรบริ
โภคของ
คนที่
อำศั
ยอยู่
ต่
ำงภู
มิ
ภำคและสั
งคม รวมทั้
งใช้
ดั
ชนี
รำคำผู้
บริ
โภคในพื้
นที่
สะท้
อนรำคำสิ
นค้
ำหรื
อค่
ำครองชี
พ
2