หน้
า 112
การวิ
เคราะห์
แนวโน้
มเป็
นการนาข้
อมู
ลในอดี
ตมาทานายการเปลี่
ยนแปลงที่
อาจเกิ
ดขึ้
นในอนาคตได้
โดยรู
ปแบบการเปลี่
ยนแปลงแนวโน้
มที่
สาคั
ญประกอบด้
วยกั
น 3 ประการ คื
อ ทิ
ศทางของความสั
มพั
นธ์
(Direction)
ได้
แก่
ความสั
มพั
นธ์
ตรง หรื
อปฏิ
ภาค (เชิ
งบวก/เชิ
งลบ) ความเข้
มข้
นของความสั
มพั
นธ์
(Strength) ได้
แก่
ความสั
มพั
นธ์
ระดั
บมาก หรื
อน้
อย และรู
ปร่
างของความสั
มพั
นธ์
(Shape) ได้
แก่
เส้
นตรง (Linear) หรื
อ เส้
นโค้
ง
(non-linear) หรื
อ logarithmic หรื
อ Exponential หรื
อ Polynomial ซึ่
งรู
ปแบบการเปลี่
ยนแปลงทั้
งหมดที่
กล่
าวมานี้
สามารถอธิ
บายได้
โดยสมการทางคณิ
ตศาสตร์
หรื
อสมการเชิ
งเส้
น (Linear Regression) เนื่
องจาก
ข้
อจากั
ดของข้
อมู
ลจึ
งอาจทาให้
การวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลอาจไม่
มี
นั
ยสาคั
ญ
ทั้
งนี้
หากมี
ข้
อมู
ลมากพอ กราฟความสั
มพั
นธ์
จะสามารถอธิ
บายแนวโน้
มว่
าตั
วแปรจะเปลี่
ยนแปลง
เพิ่
มขึ้
นหรื
อลดลงโดยเฉลี่
ยได้
ในการวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลประเด็
นปั
ญหาสาคั
ญของจั
งหวั
ด จะดาเนิ
นการวิ
เคราะห์
แนวโน้
มด้
วยการใช้
แผนภู
มิ
รู
ปแบบต่
าง ๆ เพื่
อดู
ทิ
ศทางการเปลี่
ยนแปลงทางเศรษฐกิ
จและสั
งคมที่
สาคั
ญ การ
วิ
เคราะห์
ห่
วงโซ่
มู
ลค่
า (Value Chain: VC) ที่
นาไปสู่
การกาหนดรายการข้
อมู
ลและวิ
เคราะห์
Data Gap Analysis
รวมถึ
งการวิ
เคราะห์
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างตั
วแปร ซึ่
งในปั
จจุ
บั
นความต้
องการข้
อมู
ลเพื่
อการตั
ดสิ
นใจระดั
บพื้
นที่
ได้
เปลี่
ยนแปลงไป ได้
แก่
ความต้
องการข้
อมู
ลที่
เป็
นข้
อมู
ลที่
ทั
นสมั
ย รวดเร็
ว (Real Time) ข้
อมู
ลสารสนเทศ
ขนาดใหญ่
(Big Data) ความต้
องการข้
อมู
ลจากภายนอกพื้
นที่
เพื่
อการตั
ดสิ
นใจ และระยะเวลา ในการเก็
บ
รวบรวมข้
อมู
ลที่
ยาวนานและต่
อเนื่
อง เพื่
อให้
สามารถวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลเชิ
งการบู
รณาการในระดั
บพื้
นที่
ให้
ตอบสนองยุ
ทธศาสตร์
การพั
ฒนาจั
งหวั
ด รวมถึ
งมี
ข้
อมู
ลสนั
บสนุ
นการตั
ดสิ
นใจของผู้
บริ
หารในจั
งหวั
ดได้
5.3 การนาเสนอด้
วยแผนที่
(Map Visualization) ด้
วยระบบภู
มิ
สารสนเทศ (GIS)
เป็
นเครื่
องมื
อหนึ่
งในการสนั
บสนุ
นกระบวนการระบุ
และแก้
ไขปั
ญหาเชิ
งพื้
นที่
(Area Based) ที่
สาคั
ญ
เนื่
องจากโปแกรมสาเร็
จรู
ปภู
มิ
สารสนเทศ (Geographical Information System: GIS) มี
การให้
บริ
การฟรี
อย่
างแพร่
หลายและมี
ความสะดวกในการใช้
งานมากขึ้
น ประกอบกั
บ สานั
กปลั
ดกระทรวงมหาดไทย ได้
จั
ดทา
แผนที่
พื้
นที่
ระดั
บจั
งหวั
ด อาเภอ และตาบล ในมาตราส่
วน 1:25,000 ให้
แก่
สานั
กงานจั
งหวั
ด เพื่
อประโยชน์
ใน
การพั
ฒนาข้
อมู
ลเพื่
อการตั
ดสิ
นใจเชิ
งนโยบาย จึ
งกาหนดกระบวนการพั
ฒนาทั
กษะกระบวนการสารสนเทศด้
วย
แผนที่
ทางภู
มิ
ศาสตร์
ระบบสารสนเทศภู
มิ
ศาสตร์
(Geographic Information System: GIS) คื
อ กระบวนการทางานเกี่
ยวกั
บ
ข้
อมู
ลในเชิ
งพื้
นที่
ด้
วยระบบคอมพิ
วเตอร์
ที่
ใช้
กาหนดข้
อมู
ลและสารสนเทศ ที่
มี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บตาแหน่
งในเชิ
ง
พื้
นที่
เช่
น ที่
อยู่
บ้
านเลขที่
สั
มพั
นธ์
กั
บตาแหน่
งในแผนที่
ตาแหน่
ง เส้
นรุ้
ง เส้
นแวง ข้
อมู
ลและแผนที่
ใน GIS
เป็
นระบบข้
อมู
ลสารสนเทศที่
อยู่
ในรู
ปของตารางข้
อมู
ล และฐานข้
อมู
ลที่
มี
ส่
วนสั
มพั
นธ์
กั
บข้
อมู
ลเชิ
งพื้
นที่
(Spatial Data) ซึ่
งรู
ปแบบและความสั
มพั
นธ์
ของข้
อมู
ลเชิ
งพื้
นที่
ทั้
งหลายจะสามารถนามาวิ
เคราะห์
ด้
วย GIS
และทาให้
สื่
อความหมายในเรื่
องการเปลี่
ยนแปลงที่
สั
มพั
นธ์
กั
บเวลาได้
เช่
น การแพร่
ขยายของโรคระบาด การ
เคลื่
อนย้
ายถิ่
นฐาน การบุ
กรุ
กทาลาย การเปลี่
ยนแปลงของการใช้
พื้
นที่
ฯลฯ ข้
อมู
ลเหล่
านี้
เมื่
อปรากฏบนแผนที่
ทาให้
สามารถแปลและสื่
อความหมายใช้
งานได้
ง่
าย
ในปั
จจุ
บั
นมี
การนาระบบภู
มิ
สารสนเทศภู
มิ
ศาสตร์
มาการประยุ
กต์
ใช้
กั
บงานในด้
านต่
าง ๆ เช่
น
ด้
านคมนาคมขนส่
ง ด้
านสาธารณู
ปโภค และด้
านสาธารณสุ
ข เป็
นต้
น ซึ
่
งมี
รายละเอี
ยดดั
งนี้
1) ด้
านคมนาคมขนส่
ง เป็
นการนา GIS มาประยุ
กต์
ใช้
เพื่
อการเพิ่
มประสิ
ทธิ
ผลทางด้
านการ
คมนาคม ขนส่
ง เช่
น การวางแผนเส้
นทางเดิ
นรถประจาทาง การวางแผนการสร้
างเส้
นทาง
คมนาคมขนส่
งทางรถไฟ ทางด่
วน ทางเรื
อ และทางอากาศ ได้
เป็
นอย่
างดี
เช่
น การวิ
เคราะห์
เส้
นทางการท่
องเที่
ยวศาสนสถาน สถาบั
นการศึ
กษาและแหล่
งความรู้
ในจั
งหวั
ดปทุ
มธานี
เป็
นต้
น