128
ล่
าสุ
ดเพื่
อสนั
บสนุ
นกลุ่
มเอสเอ็
มอี
ให้
ใช้
ช่
องทางอี
คอมเมิ
ร์
ซมากขึ้
นจึ
งร่
วมมื
อกั
บกระทรวง
เทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่
อสาร (ไอซี
ที
) ทาโครงการ Green e-Commerce รวมผู้
ให้
บริ
การ
แพลตฟอร์
มอี
คอมเมิ
ร์
ซ และดิ
จิ
ทั
ลมาร์
เก็
ตติ้
งกว่
า 20 ราย มาให้
ความรู้
ด้
วยการจั
ดสั
มมนาในครึ่
งปี
หลั
ง และจาหน่
ายแพ็
กเกจการใช้
งานราคาพิ
เศษ นอกจากสนั
บสนุ
นผู้
ประกอบการที่
เข้
าร่
วม
โครงการนี้
ด้
วยบั
ตรเงิ
นสดมู
ลค่
า 10,000 บาท เพื่
อไปซื้
อบริ
การกั
บผู้
ให้
บริ
การที่
ร่
วมโครงการนี้
เช่
น
ตลาดดอตคอม, ไลน์
เพย์
และเรดแร็
งค์
เป็
นต้
น
"
เป็
นการรวมผู้
ให้
บริ
การอี
คอมเมิ
ร์
ซไว้
มากที่
สุ
ดครั้
งหนึ่
ง มี
ตั้
งแต่
ผู้
ให้
บริ
การหน้
าร้
าน
ผู้
ให้
บริ
การระบบชาระเงิ
น และผู้
ให้
บริ
การการทาตลาดออนไลน์
โดย สพธอ.จะคั
ดเลื
อกเอสเอ็
มอี
ที่
จดทะเบี
ยนการค้
า หรื
อจดทะเบี
ยนนิ
ติ
บุ
คคลไม่
ต่
ากว่
า 6 เดื
อน และจาหน่
ายสิ
นค้
าถู
กต้
องตาม
สานั
กงานคุ้
มครองผู้
บริ
โภค กั
บ อย.มา 400 ราย นาร่
อง และเต็
มรู
ปแบบในปี
2559 คาดว่
าจะมี
ผู้
ประกอบการที่
ผ่
านโครงการนี้
ถึ
ง 10,000 ราย ใช้
เงิ
นเกื
อบ 100 ล้
านบาท"
ด้
านนางทรงพร โกมลสุ
รเดช รั
กษาการปลั
ดกระทรวงไอซี
ที
กล่
าวว่
า แม้
มู
ลค่
าเงิ
นที่
อยู่
บนการซื้
อขายผ่
านอี
คอมเมิ
ร์
ซจะมี
ถึ
ง 40% ของมู
ลค่
าจี
ดี
พี
ของประเทศไทย โดยการซื้
อขายที่
มา
จากภาครั
ฐเป็
นส่
วนใหญ่
แต่
เมื่
อเที
ยบกั
บประเทศอื่
นในเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ประเทศไทยยั
งไม่
ใช่
ผู้
นา ดั
งนั้
นกระทรวงไอซี
ที
จึ
งจะสนั
บสนุ
นภาคเอกชนอย่
างเต็
มที่
เพื่
อดึ
งเอกชน และผู้
บริ
โภคหั
นมา
ซื้
อขายผ่
านช่
องทางนี้
มากขึ้
นด้
วยการเน้
นเรื่
องความปลอดภั
ย รวมถึ
งระบบขนส่
ง
อย่
างไรก็
ตาม
สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
คาดการณ์
ว่
าระหว่
างปี
2556-2560 การเติ
บโต
ของตลาดอี
คอมเมิ
ร์
ซในเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
จะมี
ถึ
ง 25% และประเทศไทยยั
งอยู่
ในระยะค้
นหา
จุ
ดเปลี่
ยนเพื่
อเพิ่
มมู
ลค่
าธุ
รกิ
จอี
คอมเมิ
ร์
ซให้
เติ
บโตอย่
างก้
าวกระโดด จากปั
จจั
ยต่
าง ๆ ทั้
งความ
เชื่
อมั่
น, ระบบจั
ดส่
ง และการพั
ฒนาสิ
นค้
าโอทอปมาขายผ่
านช่
องทางออนไลน์
ที่
มา : น.ส.พ. ประชาชาติ
ธุ
รกิ
จ วั
นที่
6 ก.ค.58
___________________________________________________________________
ข้
อมู
ล สารวจพฤติ
กรรมการสู
บบุ
หรี่
และดื่
มสุ
ราของประชากร
ทุ
กภาคส่
วนในจั
งหวั
ดมหาสารคาม MOU ควบคุ
มเครื่
องดื่
มแอลกอฮอล์
ผู้
ว่
าราชการจั
งหวั
ดมหาสารคาม นาทุ
กภาคส่
วนในจั
งหวั
ดมหาสารคาม ร่
วมลงนามใน
บั
นทึ
กข้
อตกลงความร่
วมมื
อดาเนิ
นงานตามโครงการ "จั
งหวั
ดยุ
ทธศาสตร์
ควบคุ
มเครื่
องดื่
ม
แอลกอฮอล์
” ประจาปี
2558 เพื่
อร่
วมกั
นขั
บเคลื่
อนชุ
มชนให้
เกิ
ดความตระหนั
กต่
อปั
ญหาและ
ผลกระทบจาก เครื่
องดื่
มแอลกอฮอล์
พระธรรมวิ
สุ
ทธิ
โสภณ เจ้
าคณะจั
งหวั
ดมหาสารคาม ฝ่
าย
ธรรมยุ
ติ
ประธานฝ่
ายสงฆ์
นายชยาวุ
ธ จั
นทร ผู้
ว่
าราชการจั
งหวั
ดมหาสารคาม เป็
นประธานในการนาส่
วนราชการ
สถานศึ
กษา องค์
กรปกครองส่
วนท้
องถิ่
น ตารวจ ทหาร นายอาเภอทั้
ง 13 อาเภอ ภาคเอกชน
องค์
กร ลงนามในบั
นทึ
กข้
อตกลงความร่
วมมื
อ (MOU) ในการดาเนิ
นงานตามโครงการ "จั
งหวั
ด
ยุ
ทธศาสตร์
ควบคุ
มเครื่
องดื่
มแอลกอฮอล์
” ประจาปี
2558 ซึ่
งสานั
กงานสาธารณสุ
ขจั
งหวั
ด
มหาสารคาม ในฐานะเลขานุ
การคณะกรรมการควบคุ
มเครื่
องดื่
มแอลกอฮอล์
จั
งหวั
ดมหาสารคาม
ร่
วมกั
บ เครื
อข่
ายองค์
กรงดเหล้
า และ สสส.จั
ดขึ้
น เพื่
อให้
ทุ
กภาคส่
วนได้
ร่
วมกั
นขั
บเคลื่
อนชุ
มชนให้
เกิ
ดความตระหนั
กต่
อปั
ญหาและ ผลกระทบจากเครื่
องดื่
มแอลกอฮอล์
