130
การผลิ
ต 2.3 แสนคน สาขาที่
พั
กแรมและบริ
การด้
านอาหาร 1.3 แสนคน สาขาการก่
อสร้
าง
1.0 แสนคน สาขาการศึ
กษาและสาขากิ
จกรรมบริ
การด้
านอื่
น ๆ เช่
น กิ
จกรรมบริ
การเพื่
อสร้
างเสริ
ม
สุ
ขภาพร่
างกาย การดู
แลสั
ตว์
เลี้
ยง การบริ
การซั
กรี
ดและซั
กแห้
ง เป็
นต้
น เพิ่
มขึ้
นเท่
ากั
น 2.0 หมื่
นคน
และสาขากิ
จกรรมอสั
งหาริ
มทรั
พย์
1.0 หมื่
นคน ส่
วนสาขาที่
ลดลงมาที่
สุ
ด คื
อ สาขากิ
จกรรม
ด้
านสุ
ขภาพและงานสั
งคมสงเคราะห์
8.0 หมื่
นคน รองลงมาเป็
นสาขาการขนส่
ง และสถานที่
เก็
บ
สิ
นค้
า 4.0 หมื่
นคน และสาขากิ
จกรรมทางการเงิ
นและการประกั
นภั
ย 1.0 หมื่
นคน
นอกจากนี้
พบว่
าผู้
ที่
ทางานแต่
ยั
งทางานได้
ไม่
เต็
มประสิ
ทธิ
ภาพ ซึ่
งคนกลุ่
มนี้
เป็
นผู้
ทางานแต่
ยั
งมี
เวลาและพร้
อมที่
จะทางานได้
อี
ก หรื
อ ผู้
ทางานต่
ากว่
าระดั
บ พบว่
ามี
ผู้
ที่
ทางานต่
ากว่
าระดั
บ
2.25 แสนคน หรื
อ ร้
อยละ 0.6 ของจานวนผู้
ทางานกลุ่
มนี้
แม้
ว่
าจะมี
งานทาแล้
วก็
ตาม แต่
ยั
งมี
เวลา
ว่
างที่
มากพอและพร้
อมที่
จะทางานเพิ่
มขึ้
น เพื่
อต้
องการเพิ่
มรายได้
ให้
กั
บตนเอง ทั้
งนี้
เมื่
อพิ
จารณา
ถึ
งผู้
ว่
างงาน พบว่
าจานวนผู้
ว่
างงานที่
ไม่
เคยทางานมาก่
อน 1.58 แสนคน และผู้
ว่
างงานที่
เคยทางาน
มาก่
อน 1.64 แสนคน ซึ่
งลดลง 8.1 หมื่
นคน จากช่
วงเวลาเดี
ยวกั
นของปี
ที่
แล้
ว (จาก 2.45 แสนคน
เป็
น 1.64 แสนคน) โดยเป็
นผู้
ว่
างงานจากภาคการบริ
การและการค้
า 8.3 หมื่
นคน ภาคการผลิ
ต
5.3 หมื่
นคน และภาคเกษตรกรรม 2.8 หมื่
นคน
ที่
มา : กรมประชาสั
มพั
นธ์
วั
นที่
4 ส.ค.58
___________________________________________________________________
ข้
อมู
ล สารวจแรงงานนอกระบบ
กรมแรงงานเร่
งขั
บเคลื่
อนนโยบายคุ้
มครองแรงงานนอกระบบ
นายอารั
กษ์
พรหมณี
รองปลั
ดกระทรวงแรงงาน เป็
นประธานเปิ
ดโครงการจั
ดประชุ
มรั
บ
ฟั
งความคิ
ดเห็
นต่
อร่
างรู
ปแบบและแนวทางที่
เหมาะสมในการจั
ดตั้
งองค์
กรแรงงานนอกระบบ กล่
าว
ว่
า แรงงานนอกระบบเป็
นภาคส่
วนที่
มี
ความสาคั
ญ และจะมี
ความสาคั
ญยิ่
งขึ้
นเนื่
องจากข้
อมู
ลของ
สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
ระบุ
ว่
า ประชากรในวั
ย 15-60 ปี
ที่
อยู่
ในวั
ยทางาน พบว่
าเป็
นแรงงานนอก
ระบบในสั
ดส่
วนร้
อยละ 57.6 ของผู้
ที่
ทางาน ทั้
งนี้
การบริ
หารจั
ดการแรงงานในระบบนั้
นจะมี
วิ
ธี
การ
บริ
หารจั
ดการที่
ชั
ดเจน โดยเฉพาะการคุ้
มครองดู
แลในเรื่
องของสิ
ทธิ
ประโยชน์
ต่
างๆ เพราะมี
บทบั
ญญั
ติ
ชั
ดเจนตามกฎหมายอยู่
แล้
ว ส่
วนแรงงานนอกระบบส่
วนใหญ่
พบว่
ายั
งคงประสบปั
ญหา
หลายด้
านไม่
ว่
าจะเป็
นความไม่
แน่
นอนของเรื่
องรายได้
ไม่
ได้
รั
บการคุ้
มครองทางกฎหมายแรงงาน
และหลั
กประกั
นสั
งคมเท่
าที่
ควร ซึ่
งปั
จจุ
บั
นกระทรวงแรงงานมี
การจั
ดทาแผนยุ
ทธศาสตร์
การบริ
หาร
จั
ดการแรงงานนอก ระบบ พ.ศ.2556-2559 เพื่
อเป็
นกรอบแนวทางในการดาเนิ
นงานคุ้
มครอง
ส่
งเสริ
มและพั
ฒนาแรงงานนอกระบบไปยั
งประชาชนกลุ่
มเป้
าหมาย โดยมี
การบู
รณาการหน่
วยงานที่
เกี่
ยวข้
องทั้
งภาครั
ฐภาคเอกชน และสั
งคม มี
การกาหนดยุ
ทธศาสตร์
เพื่
อขยายขอบเขตการคุ้
มครอง
และสร้
างหลั
กประกั
นทางสั
งคม การเสริ
มสร้
างองค์
ความรู้
และพั
ฒนาสมรรถนะแรงงานนอกระบบ
รวมทั้
งเพิ่
มสมรรถนะการบริ
หารจั
ดการแรงงานนอกระบบ ผลั
กดั
นให้
เกิ
ดการจั
ดตั้
งองค์
กรแรงงาน
นอกระบบ เพื่
อให้
การบริ
หารจั
ดการและการขั
บเคลื่
อนนโยบายมี
ความชั
ดเจนในเชิ
งโครงสร้
าง ของ
หน่
วยงานที่
จะเข้
ามาดาเนิ
นการ
การทาให้
แรงงานนอกระบบมี
หลั
กประกั
นทางสั
งคม ได้
รั
บการดู
แลในเชิ
งสุ
ขภาพ
อาชี
วอนามั
ย สร้
างหลั
กประกั
นเพื่
อให้
แรงงานนอกระบบมี
อาชี
พ มี
เงิ
นออม จึ
งมี
แนวคิ
ดที่
จะพั
ฒนา
ในเชิ
งโครงสร้
างองค์
กร โดยยกระดั
บให้
สภาที่
ปรึ
กษาเพื่
อการพั
ฒนาแรงงานแห่
งชาติ
ที่
มี
อยู่
ไปสู่
