Statistical Yearbook Thailand 2003 - page 9

การกํ
าหนดจํ
านวนคนเข
าเมื
องรายป
ตามพระราชบั
ญญั
ติ
คนเข
าเมื
อง พ.ศ. 2522 บั
ญญั
ติ
ความไว
ว
า รั
มนตรี
ว
าการกระทรวงมหาดไทย จะกํ
าหนดจํ
านวนคนต
างด
าว ซึ่
งจะมี
ถิ่
นที่
อยู
ในราชอาณาจั
กรเป
นรายป
โดย
ประกาศในราชกิ
จจานุ
เบกษา แต
มิ
ให
เกิ
นประเทศละ 100 คนต
อป
และสํ
าหรั
บคนไร
สั
ญชาติ
ก็
ไม
เกิ
น 50 คนต
อป
คนต
างด
าวที่
ไม
นั
บรวมในการกํ
าหนดจํ
านวนคนเข
าเมื
องรายป
ได
แก
บุ
คคลดั
งต
อไปนี้
(1) คนต
างด
าวที่
เคยเข
ามามี
ถิ่
นที่
อยู
ในราชอาณาจั
กร ออกไปนอกราชอาณาจั
กร โดยมี
หลั
กฐานการแจ
ออกและกลั
บเข
ามา ภายในเวลาที่
กํ
าหนด 1 ป
(2) บุ
ตรของบิ
ดามารดาซึ่
งเป
นคนต
างด
าว ที่
เกิ
ดในระหว
างเวลาที่
มารดาออกไปนอกราชอาณาจั
กร โดย
มี
หลั
กฐานการแจ
งออกไปนอกราชอาณาจั
กรเพื่
อกลั
บเข
ามาอี
ก เมื่
อเดิ
นทางเข
ามาในราชอาณาจั
กรพร
อมกั
บบิ
ดา
มารดาซึ่
งกลั
บเข
ามาอี
กภายในเวลาที่
กํ
าหนด และบุ
ตรนั้
นอายุ
ยั
งไม
เกิ
นหนึ่
งป
(3)
หญิ
งซึ่
งมี
สั
ญชาติ
ไทยโดยการเกิ
ด และได
สละสั
ญชาติ
ไทยในกรณี
ที่
ได
สมรสกั
บคนต
างด
าว
(4)
บุ
ตรซึ่
งยั
งไม
บรรลุ
นิ
ติ
ภาวะของหญิ
งซึ่
งมี
สั
ญชาติ
ไทยโดยการเกิ
ด ไม
ว
าหญิ
งนั้
นจะสละสั
ญชาติ
ไทย
กรณี
ที่
ได
สมรสกั
บคนต
างด
าวหรื
อไม
ก็
ตาม
การเข
ามาในราชอาณาจั
กรชั่
วคราว
คนต
างด
าวที่
จะเข
ามาในราชอาณาจั
กรเป
นการชั่
วคราวได
จะต
องเข
ามาเพื่
อการปฏิ
บั
ติ
หน
าที่
ทางราชการ
การทู
ตหรื
อกงสุ
ล การท
องเที่
ยว การเล
นกี
ฬา ธุ
รกิ
จการลงทุ
น หรื
อการอื่
นที่
เกี่
ยวกั
บการลงทุ
นภายใต
บั
งคั
กฎหมายส
งเสริ
มการลงทุ
น หรื
อการลงทุ
นที่
ได
รั
บความเห็
นชอบจากกระทรวง ทบวง กรมที่
เกี่
ยวข
อง การเดิ
นทาง
ผ
านราชอาณาจั
กร การเป
นผู
ควบคุ
มพาหนะหรื
อคนประจํ
าพาหนะ ที่
เข
ามายั
งสถานี
หรื
อท
องที่
ในราชอาณาจั
กร
การศึ
กษาดู
งาน การปฏิ
บั
ติ
หน
าที่
สื่
อมวลชน การเผยแพร
ศาสนาที่
ได
รั
บความเห็
นชอบจากกระทรวง ทบวง กรม
ที่
เกี่
ยวข
อง การค
นคว
าทางวิ
ทยาศาสตร
หรื
อฝ
กสอนในสถาบั
นการค
นคว
าหรื
อสถาบั
นการศึ
กษาในราชอาณาจั
กร
การปฏิ
บั
ติ
งานด
านช
างฝ
มื
อหรื
อผู
เชี่
ยวชาญ และการอื่
นตามที่
กํ
าหนดในกฎกระทรวง
คนต
างด
าวซึ่
งได
รั
บอนุ
ญาตให
มี
ถิ่
นที่
อยู
ในราชอาณาจั
กร จะต
องขอรั
บใบสํ
าคั
ญถิ่
นที่
อยู
จากผู
บั
ญชาการ
ตํ
ารวจแห
งชาติ
หรื
อพนั
กงานเจ
าหน
าที่
ซึ่
ง ผู
บั
ญชาการตํ
ารวจแห
งชาติ
มอบหมายไว
เป
นหลั
กฐาน ภายในเวลา 30 วั
นั
บแต
วั
นที่
ได
รั
บแจ
งจากพนั
กงานเจ
าหน
าที่
เป
นลายลั
กษณ
อั
กษร
ในกรณี
ที่
คนต
างด
าวอายุ
ต่ํ
ากว
าสิ
บสองป
ได
รั
บอนุ
ญาตให
มี
ถิ่
นที่
อยู
ในราชอาณาจั
กร ผู
ใช
อํ
านาจปกครอง
หรื
อผู
ปกครอง ต
องขอรั
บใบสํ
าคั
ญถิ่
นที่
อยู
ในนามของคนต
างด
าวผู
นั้
การแปลงสั
ญชาติ
คนต
างด
าวอาจขอแปลงสั
ญชาติ
เป
นไทยได
หากมี
คุ
ณสมบั
ติ
ครบถ
วนดั
งต
อไปนี้
1.
บรรลุ
นิ
ติ
ภาวะตามกฎหมายไทย และกฎหมายที่
บุ
คคลนั้
นมี
สั
ญชาติ
2.
มี
ความประพฤติ
ดี
และมี
อาชี
พเป
นหลั
กฐาน
3.
มี
ภู
มิ
ลํ
าเนาในราชอาณาจั
กรไทยต
อเนื่
องมาจนถึ
งวั
นที่
ยื่
นขอแปลงสั
ญชาติ
เป
นเวลาไม
น
อยกว
า 5 ป
และมี
ความรู
ภาษาไทยตามที่
กฎหมายกํ
าหนด ทั้
งนี้
ยกเว
นผู
ที่
เคยมี
สั
ญชาติ
ไทยมาแล
ว หรื
อเป
นผู
ที่
ได
กระทํ
าความ
ดี
ความชอบเป
นพิ
เศษต
อประเทศไทย หรื
อเป
นบุ
ตร หรื
อภริ
ยาของผู
ซึ่
งได
แปลงสั
ญชาติ
เป
นไทย หรื
อของผู
ได
กลั
คื
นสั
ญชาติ
ไทย
นายกรั
ฐมนตรี
เป
นผู
วิ
นิ
จฉั
ยคํ
าขอแปลงสั
ญชาติ
เมื่
อเห็
นสมควรอนุ
ญาตก็
นํ
าความกราบบั
งคมทู
ลขอพระ
บรมราชานุ
ญาต และเมื่
อได
ประกาศในราชกิ
จจานุ
เบกษาแล
ว จึ
งถื
อว
าการแปลงสั
ญชาติ
มี
ผลสมบู
รณ
ตามกฎหมาย
1,2,3,4,5,6,7,8 10,11,12,13,14,15,16-17,18,19,20,...770
Powered by FlippingBook