- page 506

276
ข้
อมู
ล สารวจอนามั
ยเละสวั
สดิ
การ
“กระเที
ยม-บั
ว” สุ
ดยอดสรรพคุ
ณรั
กษา “โรคหั
วใจ”
ปั
จจุ
บั
นโรคหั
วใจกำลั
งเป็
นภั
นคุ
ก คำมต่
อคุ
ณภำพชี
วิ
ตของประชำกรทั่
วโลก สมำคม
โรคหั
วใจแห่
งสหรั
ฐอเมริ
กำได้
ประมำณกำรจำกข้
อมู
ลระหว่
ำงปี
พ.ศ. 2542 ถึ
ง 2547 ว่
ำมี
ชำวอเมริ
กั
จำนวน 79,400,000 คน ป่
วยด้
วยระบบหลอดเลื
อดหั
วใจ และโรคในกลุ่
มนี้
ยั
งเป็
นสำเหตุ
กำร
ตำยอั
นดั
บต้
นๆ ของชำวอเมริ
กั
น โดยโรคที่
มี
สำเหตุ
จำกหลอดเลื
อดหั
วใจตี
บตั
น (Coronary
heart disease) เป็
นสำเหตุ
ของกำรตำยจำกโรคระบบหลอดเลื
อดหั
วใจถึ
งร้
อยละ 52-53
สำหรั
บในประเทศไทยนั้
น ข้
อมู
ลของ
สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
ได้
แสดงให้
เห็
นว่
ในปี
พ.ศ. 2554 โรคหั
วใจเป็
นสำเหตุ
กำรตำยของประชำกรไทย 20,130 คน จำกประชำกรที่
ตำยทั้
งหมด 414,667 คน (ร้
อยละ 4.8 ของกำรตำยทั้
งหมด) เนื่
องจำกโรคที่
มี
สำเหตุ
จำก
หลอดเลื
อดหั
วใจตี
บตั
นเป็
นสำเหตุ
กำรตำยอั
นดั
บต้
นๆ จำกโรคระบบหลอดเลื
อดหั
วใจ
ภาวะหลอดเลื
อดหั
วใจตี
มี
สำเหตุ
มำจำกระดั
บไขมั
นเลว หรื
อ LDL (low-density
lipoprotein) สู
งกว่
ำค่
ำปกติ
ประกอบกั
บเซลล์
บุ
ผนั
งหลอดเลื
อดมี
ควำมปกติ
เกิ
ด plaque
หรื
อก้
อนเกำะผนั
งหลอดเลื
อด ทำให้
หลอดเลื
อดค่
อยๆ แข็
งและตี
บตั
น กำรส่
งเลื
อดไปเลี้
ยง
กล้
ำมเนื้
อหั
วใจน้
อยลง ปริ
มำณออกซิ
เจนที่
ได้
รั
บไม่
เพี
ยงพอต่
อควำมต้
องกำรของกล้
ำมเนื้
หั
วใจ ส่
งผลให้
เกิ
ดอำกำรกล้
ำมเนื้
อหั
วใจขำดเลื
อด
ส่
วนสมุ
นไพรที่
สำมำรถใช้
ในกำรรั
กษำโรคนี้
ได้
แก่
กระเที
ยม
และ
บั
วหลวง
โดย
กระเที
ยมนั้
น เป็
น อำหำรและสมุ
นไพรที่
มี
กำรใช้
มำตั้
งแต่
สมั
ยโบรำณ ตำรำยำจี
นระบุ
ว่
ำกระเที
ยมมี
ฤทธิ์
ร้
อน รสเผ็
ด ช่
วยเจริ
ญอำหำร ขั
บลมในลำไส้
แก้
บิ
ด แก้
ไอ กลำกเกลื้
อน มี
งำนวิ
จั
ยในคน
หลำยงำนพบว่
ำ กระเที
ยมสำมำรถช่
วยลดระดั
บไขมั
นเลวในเลื
อด ลดระดั
บไตรกลี
เซอไรด์
และเพิ่
มระดั
บของไขมั
นชนิ
ดดี
ซึ่
งจะช่
วยลดควำมเสี่
ยงต่
อกำรเป็
นโรคระบบหลอดเลื
อดหั
วใจ
นอกจำกนี้
กระเที
ยมยั
งมี
ฤทธิ์
ลดควำมดั
นเลื
อดอี
กด้
วย
ปริ
มำณกระเที
ยมที่
แนะนำให้
ใช้
เพื่
อฤทธิ์
ดั
งกล่
ำว คื
อ กระเที
ยมสด 2-5 กรั
ม (1/4 -
1/2 ขี
ด) ต่
อวั
น โดยรั
บประทำนพร้
อมอำหำรเพื่
อลดอำกำรคลื่
นไส้
อำเจี
ยน เวลำรั
บประทำน
ให้
บดกระเที
ยมให้
ละเอี
ยด และรั
บประทำนทั
นที
ข้
อเสี
ยจำกกำรรั
บประทำนกระเที
ยม คื
กลิ่
นปำก ซึ่
งสำมำรถใช้
กำรเคี้
ยวใบชำแก่
ๆ บ้
วนปำกหลั
งจำกรั
บประทำนกระเที
ยม
ส่
วนบั
วหลวง
นั
บเป็
นสมุ
นไพรอี
กชนิ
ดหนึ่
งที่
มี
สรรพคุ
ณเกี่
ยวกั
บหั
วใจ เพี
ยงแต่
คน
ทั่
วไปอำจจะนึ
กไม่
ถึ
ง ในตำรำยำจี
นกล่
ำวว่
ำ ใบบั
ว มี
ฤทธิ์
เป็
นกลำง รสฝำดขม แก้
ร้
อนใน
เลื
อดกำเดำออก ช่
วยห้
ำมเลื
อด รำกบั
ว มี
คุ
ณสมบั
ติ
เย็
น รสหวำน แก้
ร้
อนใน แก้
เลื
อดกำเดำ ดี
บั
วมี
ฤทธ์
เย็
น รสขม ดั
บร้
อนที่
หั
วใจ กล่
อมประสำท ปรั
บสมดุ
ลหั
วใจและไต
สำหรั
บกำรศึ
กษำทำงเภสั
ชวิ
ทยำพบว่
ำ สำรสกั
ด ด้
วยน้
ำจำกดี
บั
วมี
ฤทธ์
ลดควำมดั
โลหิ
ต ประกอบด้
วยสำร demethylcoclaurine มี
ฤทธิ์
คลำยกล้
ำมเนื้
อเรี
ยบ สำร methyl
corypalline มี
ฤทธิ์
ขยำยหลอดเลื
อดที่
ไปเลี้
ยงหั
วใจ สำร neferine มี
ฤทธิ์
ลดควำมดั
นโลหิ
1...,496,497,498,499,500,501,502,503,504,505 507,508,509,510,511,512,513,514,515,516,...520
Powered by FlippingBook