Page 422 -

226
เมื่อเปรียบเที ยบรายได และคาใชจายของขาราชการในแตละตํ าแหนง จะเห็นได
วา ครอบครัวขาราชการระดั บปฏิบัติงานเปนกลุมที่เสี่ยงตอการที่มีรายได ไมเพียงพอตอการ
ดํารงชีพมากที่สุด คือมีสัดส วนคาใชจายต อรายได สูงถึงรอยละ 91.5 รองลงมาเป นกลุม
ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ รอยละ 88.7 เพื่ อใหสามารถดํารงชีพอยู ไดขาราชการ
กลุมนี้จําเปนที่ตองนําเงินในอนาคตมาใชจาย หรื อมีการกอหนี้ ตั้งแต อายุยังนอย ในขณะที่
ครัวเรือนข าราชการประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษขึ้นไป ผู อํานวยการ ผูบริหาร
มีสัดสวนของคาใชจายตอรายไดไมเกินรอยละ 65
จากป ญหาดังกลาวทําให รัฐบาลเล็ งเห็นถึงความสําคั ญของป ญหา จึงจัดให มี
นโยบายยกระดั บคุณภาพชี วิ ตของประชาชน หนึ่งในนโยบายดานนี้ ได แก การปรั บ
โครงสรางหนี้ รวมทั้งนโยบายการปรั บอัตราคาจางใหแกแรงงานเปนวั นละไมนอยกวา 300
บาท และผูที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายไดเดือนละไมนอยกวา 15,000 บาท ซึ่ งได
เริ่มดําเนินการในกลุ มขาราชการเปนกลุมแรก เพื่อให ขาราชการพลเรือนมี คุณภาพชี วิตที่ดี
ขึ้น ถึงแมจะเปนบุคลากรกลุ มเล็กๆ แตก็เปนบุคลากรที่มีบทบาทสําคั ญที่ ทําให กลไกภาครัฐ
ของประเทศสามารถขับเคลื่ อนไปได ฉะนั้นการดู แลพัฒนาคุ ณภาพชี วิ ตของขาราชการ
นาจะเป นแรงจู งใจที่ ทําให ขาราชการทั้ งหลายปฏิ บัติ งานอยางมี ประสิทธิ ภาพและ
ประสิทธิผลมากขึ้น
ที่มา : น.ส.พ. โพสต ทูเดย วันที่ 25 ก.ค.55