บทนำ
ความยากจนเป็
นปั
ญหาที่
มี
ความสลั
บซั
บซ้
อนเกิ
ดขึ้
นจากหลายสาเหตุ
ในหลายมุ
มมองไม่
เฉพาะ
ประเด็
นการมี
รายได้
น้
อย หรื
อการบริ
โภคน้
อยเท่
านั้
น แต่
ยั
งครอบคลุ
มถึ
งการขาดการศึ
กษา ขาดทั
กษะ
ในการประกอบอาชี
พ ขาดโอกาสในการเข้
าถึ
งแหล่
งทุ
นและทรั
พยากร โดยเฉพาะที
ดิ
นทากิ
น ที่
อยู่
อาศั
ขาดโอกาสในการเข้
าถึ
งสิ่
งอานวยความสะดวก แหล่
งน้
า ไฟฟู
า เป็
นต้
น ความยากจนจึ
งเป็
นปั
ญหาหลั
กที่
ทุ
ภาคส่
วนต้
องให้
ความสาคั
ญ การแก้
ไขปั
ญหาความยากจนต้
องเน้
นการมี
ส่
วนร่
วมของทุ
กภาคส่
วน และต้
องบู
รณา
การการแก้
ไขปั
ญหาอย่
างเป็
นระบบให้
ครอบคลุ
มทุ
กมิ
ติ
ไปพร้
อมๆกั
น เพื่
อพั
ฒนาศั
กยภาพของคนจน
ให้
สามารถพึ่
งตนเองได้
อย่
างยั่
งยื
น การจั
ดทาแผนที่
ความยากจนเป็
นการวิ
เคราะห์
ปั
จจั
ยต่
างๆ ดั
งกล่
าว
ข้
างต้
น เพื่
อให้
สอดคล้
องกั
บสภาพความเป็
นอยู่
ที่
แท้
จริ
งของประชาชนในแต่
ละพื้
นที่
โดยใช้
วิ
ธี
การทางสถิ
ติ
และเศรษฐมิ
ติ
ทาให้
ได้
ข้
อมู
ลสถิ
ติ
และตั
วชี้
วั
ดความยากจนในระดั
บพื้
นที่
ตั้
งแต่
ระดั
บประเทศ ภาค จั
งหวั
อาเภอ และตาบล จาแนกตามเขตการปกครอง คื
อ ในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล ซึ่
งจะสะท้
อนให้
เห็
นถึ
งปั
จจั
ยที่
ส่
งผลต่
อความยากจน อั
นประกอบด้
วยโครงสร้
างประชากร ทรั
พย์
สิ
น และการย้
ายถิ่
สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
(สสช.) และสานั
กงานคณะกรรมการพั
ฒนาการเศรษฐกิ
จและสั
งคม
แห่
งชาติ
(สศช.) คานึ
งถึ
งประโยชน์
ของแผนที่
ความยากจน จึ
งริ
เริ่
มให้
มี
การจั
ดทาแผนที่
ความยากจนของ
ประเทศไทยขึ้
น ภายใต้
โครงการความร่
วมมื
อเพื่
อการพั
ฒนาประเทศ ด้
านการวิ
เคราะห์
ความยากจน และ
ติ
ดตามประเมิ
นผล (Country Development Partnership in Poverty Analysis and Monitoring :
CDP - PAM) โดยเป็
นความร่
วมมื
อของ 4 องค์
กร ได้
แก่
สสช. สศช. สถาบั
นวิ
จั
ยเพื่
อการพั
ฒนาประเทศไทย
(ที
ดี
อาร์
ไอ) และธนาคารโลก ซึ่
งการดาเนิ
นงานแบ่
งเป็
น 2 ระยะ คื
ร ย ที
1
(ปี
2546) : ศึ
กษาวิ
จั
ยการจั
ดทาแผนที
ความยากจน พ.ศ. 2543 โดยใช้
เทคนิ
ของธนาคารโลก ที
ดี
อาร์
ไอเป็
นฝุ
ายศึ
กษาวิ
จั
ย ธนาคารโลกเป็
นฝุ
ายให้
คาปรึ
กษาด้
านเทคนิ
คและสนั
บสนุ
ด้
านการเงิ
น ส่
วน สศช. และ สสช. ให้
ความช่
วยเหลื
อด้
านข้
อมู
ร ย ที
2
(ปี
2548) : ถ่
ายโอนเทคนิ
คการจั
ดทาแผนที่
ความยากจน ที่
ศึ
กษาจากโครงการระยะ
ที่
1 ให้
กั
บบุ
คลากรของ สศช. และ สสช. เพื่
อร่
วมกั
นจั
ดทาแผนที่
ความยากจน พ.ศ. 2545 โดยที
ดี
อาร์
ไอ
เป็
นที
ปรึ
กษาโครงการและดาเนิ
นการฝึ
กอบรมถ่
ายโอนเทคนิ
ค ส่
วนธนาคารโลกให้
การสนั
บสนุ
นด้
าน
การเงิ
หลั
งจากสิ้
นสุ
ดโครงการ CDP – PAM ในปี
2549 สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
ได้
จั
ดทาแผนที่
ความ
ยากจน พ.ศ.2547 ซึ่
งได้
รั
บการสนั
บสนุ
นจากธนาคารโลกในการจ้
างที่
ปรึ
กษาจากที
ดี
อาร์
ไอในการปรั
บปรุ
เทคนิ
ค วิ
ธี
การจั
ดทาแผนที่
ความยากจน
ตั้
งแต่
ปี
2550 เป็
นต้
นมา สานั
กงานสถิ
ติ
แห่
งชาติ
ได้
จั
ดทาแผนที่
ความยากจนทุ
กปี
โดยจั
ดทาใน
ปี
ถั
ดจากปี
ที่
ทาการสารวจภาวะเศรษฐกิ
จและสั
งคมของครั
วเรื
อน (สศส.) ซึ่
งเก็
บรวบรวมข้
อมู
ลทั่
วไปของ
ครั
วเรื
อน ทรั
พย์
สิ
น และค่
าใช้
จ่
ายของครั
วเรื
อนทุ
กปี
ส่
วนข้
อมู
ลด้
านรายได้
ของครั
วเรื
อนนั้
น มี
การเก็
รวบรวมข้
อมู
ลปี
เว้
นปี
หรื
อปี
คู่
สาหรั
บปี
2556 สสช. ได้
จั
ดทาแผนที่
ความยากจนของประเทศไทย พ.ศ. 2553 โดยได้
เปลี่
ยน
ฐานข้
อมู
ลจากสามะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2543 มาเป็
นสามะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2553 และ
การสารวจภาวะเศรษฐกิ
จและสั
งคมของครั
วเรื
อน พ.ศ. 2553
1...,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18 20,21,22,23,24,25,26,27,28-29,30-31,...428