40
3.2.3 การคงอยู่
และการออกกลางคั
น
ปั
ญหาหนึ่
งในระบบการศึ
กษาที่
ควรได้
รั
บ
การแก้
ไข คื
อ การออกกลางคั
นของนั
กเรี
ยน
ซึ่
งพระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห่
งชาติ
พ.ศ.2542
กาหนดให้
มี
การศึ
กษาภาคบั
งคั
บจานวน 9 ปี
หมายความว่
า นั
กเรี
ยนที่
จบชั้
นประถมศึ
กษาปี
ที่
6
ทุ
กคนต้
องเรี
ยนต่
อจนจบการศึ
กษาในระดั
บชั้
น
มั
ธ ย ม ศึ
ก ษ า ปี
ที่
3 จ า ก ส ถิ
ติ
ก า ร ศึ
ก ษ า
ในปี
การศึ
กษา 2558 พบว่
า การออกกลางคั
น
ลดลงทุ
กระดั
บชั้
นเรี
ยน อาจเป็
นเพราะพ่
อแม่
เห็
นความสาคั
ญของการศึ
กษามากขึ้
น จึ
งทาให้
การออกกลางคั
นลดน้
อยลง อย่
างไรก็
ดี
ระดั
บ
มั
ธยมศึ
กษ าตอนต้
นและตอนปล ายมี
อั
ตรา
การออกกลางคั
นมากกว่
าระดั
บประถมศึ
กษา
3.2.3 Retention and B.E. Dropout
One major problem in education is
dropout. Under the B.E. 2542 National
Education Act and the Government policy,
9 years basic education was identified as
compulsory throughout the country,
which was upgraded from 6 years. It
means that all students finishing 6 years
primary school will continue to at least
lower secondary level. In 2015 the
numbers of dropouts declined in all levels
of education, which might be because the
parents have seen more importance of
education. However, it was found that the
Dropout rates in lower and upper
secondary levels were higher than in
primary level.
แผนภู
มิ
3.3 อั
ตราการออกกลางคั
น จาแนกตามระดั
บการศึ
กษา ปี
การศึ
กษา 2554-2558
Chart 3.3 Dropout Rate by Education Level: Academic Year 2011-2015
ที่
มา:
สถิ
ติ
การศึ
กษาฉบั
บย่
อ พ.ศ. 2554-2558 สานั
กงานปลั
ดกระทรวงศึ
กษาธิ
การ
Source: Educational Statistics in Brief: 2011-2015, Office of Permanent Secretary.
อั
ตรา/Rate
ปี
การศึ
กษา/Academic Year